พท.จ่อหารือ ภท.ปมเกณฑ์ทำประชามติ ลั่น งอแงมากเจอยุบสภาฯ สั่งสอน

พท.จ่อหารือ ภท.ปมเกณฑ์ทำประชามติ ลั่น งอแงมากเจอยุบสภาฯ สั่งสอน
“หมอเชิดชัย” เผยเพื่อไทย จ่อหารือ “ภูมิใจไทย” ปมเกณฑ์ทำประชามติ ลั่น งอแงมากเจอยุบสภาฯ สั่งสอน แต่เชื่อคุยกันได้ แนะเปิดเวที ม.152 แจงเอ็มโอยู 44 เชื่อไม่ใช่เงื่อนไขให้ม็อบจุดติด

น.พ. เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เผย กรณีพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่า ขณะนี้การแก้รัฐธรรมนูญติดปัญหาเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ ส.ว. และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เห็นไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเกณฑ์ผ่านการทำประชามติ

“แม้อาจจะต้องเสียเวลา 180 วัน ในการพักร่างกฎหมายประชามติ เพื่อยืนยันการใช้ร่างเกณฑ์การใช้เสียงข้างมากชั้นเดียว ตามเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ฉบับเดิมที่ สส.เสนอมา แต่ตนยังเชื่อว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมี ส.ส.ร.ยกร่าง ออกมาบังคับใช้ให้ทันก่อนการเลือกตั้งปี 2570” น.พ. เชิดชัย กล่าว

น.พ.เชิดชัย กล่าวว่า ไม่ว่าจะต้องทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้ง ระหว่างนั้นจะต้องเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยให้เห็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้มีวิธีแก้อยู่แล้ว แต่ขอให้เชื่อใจพรรคเพื่อไทย เราจะเจรจาทั้งบ้านเล็ก บ้านใหญ่ และต้องคุยให้จบ ถ้ายังงอแงมากก็อาจยุบสภาสั่งสอน ให้ไปพิสูจน์ตอนเลือกตั้งกันใหม่ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตอนนั้นตั้ง ส.ส.ร.มาแล้ว แม้จะยุบสภา ส.ส.ร.ก็ยังทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป ไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่หรือไม่ แต่เชื่อว่าคงไม่ไปถึงขั้นนั้น น่าจะพูดคุยกันได้

น.พ.เชิดชัย กล่าวว่า ส่วนกรณี นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อให้รัฐบาลชี้แจงกรณีเอ็มโอยู 44 ไทย-กัมพูชาว่า ถ้าทำได้ก็ได้ เพราะถือเป็นการใช้เวทีสภาฯ ในการหาทางออก ซึ่งเอ็มโอยู 44 เป็นเรื่องที่มีความเห็นต่างมากมาย ควรนำไปพูดคุยในสภาฯ ใครสงสัยอะไร รัฐบาลจะได้ชี้แจงทำความเข้าใจ เอาความจริงมาพูดกัน ดีกว่าไปปลุกม็อบลงถนน

“ส่วนกรณีที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วยและมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้กลไกรัฐธรรมนูญมาตรา 152 แก้ปัญหานั้น ถือเป็นความเห็นของนายชูศักดิ์ ซึ่งตนก็อยากให้นายนพดลนำเรื่องเอ็มโอยู 44 หารือในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อลงมติว่าควรเปิดเวทีอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลใช้เป็นเวทีชี้แจงทำความเข้าใจยุติปัญหา เพราะเอ็มโอยูเป็นแค่ข้อตกลง ไม่มีผลทางกฎหมาย” น.พ. เชิดชัย กล่าว 

น.พ. เชิดชัย กล่าวต่อว่า กรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะลงถนนนั้น ทำเพื่ออะไร หากล้มรัฐบาลได้จะเอาใครเป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นจึงควรปล่อยให้ประเทศเดินหน้าได้ ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ปรากฎว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ได้ไปเจรจาเอ็มโอยู 44 กับกัมพูชา แต่ทำไมนายสนธิเงียบ

“ผมเชื่อว่าปัญหาเอ็มโอยู 44 ไม่เป็นเงื่อนไขให้ม็อบจุดติด และคิดว่าตอนนี้คนเบื่อม็อบ เราทะเลาะกันมานาน เศรษฐกิจแย่ ถ้ายังมาปลุกม็อบเพื่อล้มรัฐบาล แล้วใครจะมาแก้เศรษฐกิจ จึงอยากรู้ว่านายสนธิทำไปเพื่ออะไร หรือหากมีการรัฐประหารประเทศก็จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่” นายแพทย์ เชิดชัย กล่าว

TAGS: #เชิดชัย #เอ็มโอยู44 #เพื่อไทย #ประชามติ #ภูมิใจไทย #ยุบสภา