“อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” โพสต์อาลัย เหตุการณ์สลายการชุมนุม 10 เมษายน 2553 ‘ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่’ บริเวณสะพานผ่านฟ้าถึงสี่แยกคอกวัว
วันที่ 10 เม.ย. 2566 อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์อาลัยเหตุการณ์ครบรอบ 13 ปี สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ผ่านแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของตนเองว่า
โพสต์ของอุ๊งอิ๊งมีเนื้อหาระบุว่า 13 ปีแล้ว วันแรกของการส่งทหารเข้ายึดพื้นที่และใช้กระสุนจริงกับประชาชน มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ถึงวีรชนผู้ต่อสู้ทุกท่าน ไม่มีวันไหนที่พวกเราจะลืม และขอยืนยันว่าจะเรียกร้องให้คืนความยุติธรรมแก่ผู้เสียสละ เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนต่อการทำงานของพวกเราในอนาคต เราสูญเสียไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
ด้านเศรษฐา ได้โพสต์เนื้อหาระบุว่า ครบรอบ 13 ปี 10 เมษา 53 ขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย ให้กำลังใจทุกคนผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคเท่าเทียม และขอประณามทุกความรุนแรงที่ผู้มีอำนาจกระทำต่อประชาชน สิ่งเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นในรัฐบาลเพื่อไทย และการอำนวยความยุติธรรม เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเช่นกัน
ย้อนเหตุการณ์สลายการชุมนุม
การชุมนุมของ นปช. คนเสื้อแดง ปี 2553 เริ่มต้นเมื่อ 12 มีนาคม ด้วยข้อเรียกร้องหลักคือ ยุบสภาฯ ขับไล่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2551 หลังการยุบพรรคพลังประชาชน และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นจากตำแหน่ง สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะเป็นอีกครั้งที่พรรคที่ได้เสียงข้างมากในสภาฯ เหตุการณ์สำคัญก่อนถึงวันที่ 10 เมษายน คือ การบุกยึดสถานีดาวเทียมไทยคม จังหวัดปทุมธานี โดยเจ้าหน้าที่ทหาร
ในวันที่ 8 เมษายน และพยายามตัดสัญญาณพีเพิลแชนเนล (People Channel) ที่ถ่ายทอดการปราศรัยและการชุมนุมของ นปช. ด้วยเหตุผลจากรัฐบาลว่า ดำเนินการขัดต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคง จนเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติการที่รัฐบาลเรียกว่า ‘ขอคืนพื้นที่’ โดยคาดว่า ปฏิบัติการจะกินเวลาไม่เกินเย็นวันที่ 10 เมษายน และจากที่ประเมินกันว่า การสลายการชุมนุมจะเกิดขึ้นที่ราชประสงค์ แต่เวทีสะพานผ่านฟ้ากลับเป็นพื้นที่แรกที่ถูกขอคืน โดยไม่มีคำเตือนล่วงหน้า
ปฏิบัติการขอพื้นที่คืนเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่าย ตั้งแต่พื้นที่ชุมนุมสะพานผ่านฟ้ามาถึงแยกคอกวัว ฝั่งเจ้าหน้าที่ทหารโปรยแก๊สน้ำตาจากเฮลิคอปเตอร์ ผู้ชุมนุมเสียชีวิตจากการใช้กระสุนความเร็วสูง ทั้งยิงศีรษะและลำตัว ช่วงค่ำ มีภาพปรากฏว่ามีกลุ่มชายชุดดำเป็นผู้โจมตีทหาร ส่วนฝั่งทหารก็ทำการซุ่มยิงผู้ชุมนุมจากที่สูง