"ศิธา" ร่วมภาคประชาชน ฟ้อง "ประยุทธ์" ไม่แก้ฝุ่น ทำปอดพัง

"ศิธา" ร่วมภาคประชาชน เข้ายื่นฟ้อง "ประยุทธ์" ไม่แก้ปัญหาฝุ่นรุนแรง อยากถาม “ทำแล้ว ทำอยู่ แล้วทำอะไร” 

วันที่ 10 เม.ย. 2566 เครือข่ายประชาชนภาคเหนือ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเชียงหม่  สภาลมหายใจเชียงใหม่ สภาลมหายใจภาคเหนือ ได้เข้ายื่นฟ้องร้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัมนตรี คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ คระกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และคณะกรรมการตลาดทุน เนื่องจากไม่ยอมใช้มาตรการทางกฎหมาย นโยบาย หรือแผนงานที่มีเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันเพื่อแก้ไขปัญหาฉุกเฉินในเรื่องฝุ่นควันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคไทยสร้างไทยเดินทางและลงชื่อเข้าร่วมสนับสนุนการฟ้องดังกล่าวด้วย 

โดยการฟ้องร้องมีข้อเรียกร้อง 3 ประการ ได้แก่

1. ฟ้องพลเอกประยุทธ์ ในฐานะนายกฯให้ใช้อำนาจตามมาตรา 9 ของ พ.ร.บ. ส่งเสิรมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพราะการที่นายกฯไม่ใช้อำนาจดังกล่าวทำให้ปัญหาฝุ่นพิษยิ่งลุกลามและล่าช้าแก้ไขปัญหาได้ไม่ทันความรุนแรงของเหตุการณ์

2. ฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ปฎิบัตติตามแผนการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอง” ที่มีารประกาศมาตั้งแต่ปี 2562 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

3. ฟ้อง (กลต.) และ คณะกรรมการกำกับตลาดทุน ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลเนื่องจากมีหน้าที่ครอบคลุมพันธะนอกอาณาเขต เพื่อที่จะเร่งจัดทำรายงานด้านห่วงโซ่อุปทานที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 

น.ต.ศิธา เปิดเผยว่าการที่ตนมาร่วมสนับสนุนในวันนี้ เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคเหนือตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมาได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีผู้คนในภาคเหนือที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมากกว่า 2 ล้านคน แต่หน่วยงานรัฐยังนิ่งเฉย ไม่มีการตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านี้อย่างเพียงพอ โดยไม่ทราบว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ แล้วทำอะไร” 

น.ต.ศิธา ย้ำว่าปัญหาฝุ่นพิษเป็นปัญหาที่เร่งด่วน เพราะประชาชนจำนวนมากเริ่มมีอาการป่วยไข้ และหลายคนที่แม้จะยังไม่มีอาการป่วยไข้ในวันนี้ แต่การสูดดมอากาศที่เป็นมลพิษเช่นนี้ทุกวันย่อมสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว โดยตนอยากให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายในบ้านเมือง ลองมาอยู่หรือมาสูดดมอากาศในที่โล่งหรือในห้องที่ไม่มีเครื่องฟอกอากาศและเต็มไปด้วยหมอกควันแบบที่พี่น้องชาวภาคเหนือกำลังเผชิญดูบ้าง จะได้เข้าใจว่าเหตุการณ์นี้กระทบต่อชีวิตและสุขภาพขนาดไหน

ข้อมูลจากภาคประชาชน และจากสื่อต่างๆ ตลอดจนนักวิชาการทั่วไป ระบุตรงกันชัดเจนว่าปัญหาหลักเรื่องฝุ่นพิษ มาจากการเผาทางการเกษตร ไม่ใช่อุบัติเหตุหรือภัยพิบัติ ที่ผู้นำประเทศไม่สามารถควบคุมได้ หากนายกจริงใจในการแก้ไขปัญหาเชื่อว่าปัญหาฝุ่นควันจะบรรเทาเบาบางลงได้ในระยะเวลาอันสั้น ส่วนในระยะกลางและระยะยาวจะสามารถแก้ไขปัญหาจนอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยสำหรับพี่น้องประชาชนได้

ผู้นำประเทศคนปัจจุบัน ใช้เวลาอยู่ในอำนาจยาวนานเกิน 8ปีแล้ว ได้ใช้อำนาจอย่างเต็มที่เบ็ดเสร็จ ในการรักษาตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งอย่างมั่นคง แต่ในเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ได้ปล่อยปละละเลย ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชน ตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเคลื่อนไหวรวมตัวกัน ของพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ เกิดจากความท้อแท้หมดหวัง แค่สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ยังหวังไม่ได้จากรัฐบาลนี้

TAGS: #ไทยสร้างไทย #เลือกตั้ง #เลือกตั้ง66