"วิสุทธิ์" เผย7ม.ค. ขอมติ ส.ส.พท. ชงร่างแก้รธน. ย้ำ ไม่แก้หมวด1 หมวด2 พระราชอำนาจ ไม่ลิดรอนสิทธิ สว. ประเมินหากแก้รธน.แบบสุดโต่ง อาจเกิดขัดแย้งรอบใหม่
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมรัฐสภาช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ ว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมขอมติจากที่ประชุม ส.ส.ของพรรควันที่ 7 ม.ค.นี้ก่อน ว่า จะเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคจัดทำไว้เสนอประกบกับร่างของพรรคประชาชนหรือไม่
ทั้งนี้ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยนั้น ยึดสาระสำคัญ คือ จะไม่แตะหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ รวมถึงมาตราที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจทุกมาตรา อีกทั้งต้องไม่แก้ไขในประเด็นที่อาจจะสร้างความแตกแยก ขัดแย้งในสังคม รวมถึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนและทำให้ประเทศเดินหน้าผาสุข
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างกับพรรคประชาชน ซึ่งเรายึดหลักการคือไม่กระทบกับคนส่วนใหญ่ รวมถึงไม่กระทบกับจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นรายละเอียดแบบสุดโต่งไม่ต้องการให้เกิดขึ้น หากคิดว่าจะเอาแบบนั้น เชื่อว่าจะมีความขัดแย้ง สังคมแบ่งเป็นสองฝ่าย จะมีการชุมนุม ดังนั้นในการทำตามสัญญาประชามคมเรื่องแก้รัฐธรรมนูญต้องทำให้เป็นประโยชน์กับประชาชนไม่ใช่ยึดแต่เรื่องการเมืองเหนือสิ่งอื่นหรือยึดแต่ผลแพ้ และชนะ อย่างไรก็ตามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทางพรรคเพื่อไทยประเมินว่าต้องมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเดินหน้าได้
ส่วนข้อเรียกร้องของพรรคประชาชนที่ต้องการให้นำร่างแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวดสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาในวันที่ 14 -15 ม.ค.นี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้แบบนั้น เพราะต้องหารือกับทุกฝ่าย ซึ่งมีพรรคร่วมรัฐบาล สว. ด้วย การทำงานร่วมกันต้องให้เกียรติกันและหารือกันอย่างรอบคอบ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องพึ่ง สว.ด้วย ดังนั้นจะฟันธงให้เป็นแบบที่ต้องการไม่ได้ ต้องหารือร่วมกัน
เมื่อถามว่าขณะนี้มีเสียงสว.สะท้อนว่าหากแก้ไขเพื่อประโยชน์ฝ่ายการเมืองจะไม่เอาด้วยเกรงว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะไปไม่รอดหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ต้องหารือกัน ในประเด็นที่เสนอแก้ไขต่างๆ ต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้วย ซึ่งของพรรคเพื่อไทยนั้นจะเสนอรายละเอียดให้พรรคร่วมพิจารณาหลังจากที่ส.ส.ลงมติแล้วในวันที่ 7 ม.ค.นี้ เบื้องต้นนั้นเนื้อหาจะไม่ลิดรอนสิทธิของ สว. ซึ่งการจะเปลี่ยนแปลงต้องมีเวลาเริ่มต้นและปรับปรุงหลายปี การจะหักพร้าด้วยเข่านั้นไม่สำเร็จ จะหักทันทีทำไม่ได้ในประเทศนี้ ดังนั้นการจะไปสู่ยุคเปลี่ยนผ่านต้องมีระยะเวลา ทั้งนี้ต้องให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ไม่ใช่นำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาสร้างความขัดแย้งให้บ้านเมือง