“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติ ทำไทยเสี่ยงถูกตั้งคำถาม

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติ ทำไทยเสี่ยงถูกตั้งคำถาม
“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกา ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน หนุน แก้รธน.ฉบับ ปชน.แต่เหนื่อย เหตุ สว.ข้างมากไม่เอาด้วย

น.ส.อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เผย กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงนายก อบจ.เชียงราย ถึงการผลักดันหญิงไทยให้เป็นนางแบบระดับโลก โดยเปรียบเทียบกับชาวแอฟริกาที่ดำ จมูกแหมบ แต่ได้เป็นนางแบบ ได้รายได้หลายล้านบาท ทั้งที่คนไทยหน้าตายังดีกว่า โดยหวังว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปและเกิดขึ้นซ้ำอีก เพราะนายทักษิณ อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองใหญ่ และเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ และเหยียดเชื้อชาติ และสีผิวซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมถึงขัดต่อคำมั่นการเคารพสิทธิมนุษยชน และขจัดการเลือกปฏิบัติ

ทั้งนี้ การปราศรัยดังกล่าวสะท้อนนายทักษิณ ว่า  เป็นคนปากเร็ว พูดเร็ว และไม่กังวลผลกระทบ แต่เรื่องที่เป็นหลักการพื้นฐาน นายทักษิณ ควรต้องระมัดระวัง เพราะเรื่องดังกล่าว ถือเป็นการเหยียดสีผิว และเชื้อชาติ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ มิเช่นนั้นที่นายกรัฐมนตรี ไปให้คำมั่นจะเป็นอย่างหนึ่ง แต่คนเบื้องหลังพรรคการเมืองของนายกรัฐมนตรี กลับพูดอีกอย่างหนึ่ง แม้ในทางกฎหมาย นายทักษิณ จะไม่ได้มีตำแหน่งใดในพรรค แต่ในทางปฏิบัติ นายทักษิณ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า นายทักษิณ มีบทบาทในพรรคการเมือง ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทย ถูกตั้งคำถามได้ เพราะเป็นการพูดในสาธารณะชน ที่นายทักษิณ หาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างเปิดเผย ซึ่งเรื่องดังกล่าว ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากในสากล พรรคเพื่อไทย อาจสนับสนุนการสมรสเท่าเทียม และความสำคัญทุกเพศ แต่หากหลักการสีผิว และเชื้อชาติ ยังถูกเหยียดหยาม อาจจะไปลบล้างสิ่งที่รัฐบาลพูดมาโดยตลอดในการไม่เลือกปฏิบัติได้

ทั้งนี้ในฐานะสมาชิกวุฒิสภามองการเคลื่อนไหวช่วยหาเสียงของนายทักษิณอย่างไรนั้น น.ส.อังคณา มองว่า เป็นสิทธิของนายทักษิณ ที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด โดยเฉพาะพรรคที่นายทักษิณมีส่วนสร้างขึ้นมา แต่การหาเสียง จะต้องไม่ก้าวล่วง ไม่เลือกปฏิบัติ หรือไปลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น และนายทักษิณเอง เคยอยู่ในฐานะผู้ลี้ภัย น่าจะมีความเข้าใจในประเด็นนี้ และไม่ควรเหยียดหยามเพศ หรือเชื้อชาติ พร้อมมองว่า นายทักษิณ ควรออกมาขอโทษต่อสาธารณะชนในเรื่องดังกล่าว และนายกรัฐมนตรี ควรจะต้องเตือนนายทักษิณด้วย

นางอังคณา ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาชน เสนอต่อประเด็นการแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวดสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมีประเด็นที่ลิดรอนสิทธิของ สว.ต่อการออกเสียงเห็นชอบ ว่า ตนสนับสนุนในเนื้อหาที่พรรคประชาชนเสนอ โดยเนื้อหาที่เสนอแก้ไขนั้นเป็นสิทธิที่ทำได้ อย่างไรก็ดีตนประเมินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรอบนี้พรรคประชาชนอาจจะเหนื่อยเนื่องจากว่าไม่ได้เสียงสนับสนุนจาก สว.ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดีตนขอเรียกร้องไปยัง สว.ส่วนใหญ่ให้คำนึงถึงอนาคตประเทศและประชาชน เพราะต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนั้นมีปัญหาหลายประการที่ควรได้รับการแก้ไขโดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

นางอังคณา กล่าวด้วยว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 นั้นมีการประเมินว่าอาจมีกระบวนการทำให้ยืดเยื้อ เพราะจะถูกยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะมีฝ่ายใดเป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้นเมื่อมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว การพิจารณาต้องหยุดไปก่อนจนกว่ามีคำวินิจฉัย

TAGS: #ทักษิณ #เหยียดสีผิว #อังคณา #แก้รธน #ม256 #ปชน