ประชุมรัฐสภาล่มครั้งที่ 2 ป่วนกันหนัก องค์ประชุมไม่ครบอีก ทำให้ เปิดวาระแก้รธน. ม.256 ไม่ได้ ประธานสั่งปิดการประชุมทันที
เมื่อเวลา 09.40 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาเรื่องด่วน 1.ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา256 และเพิ่มหมวด15/1) ที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และคณะ เป็นผู้เสนอ และ2.ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา256 และเพิ่มหมวด15/1) ที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ
ทั้ง 2 ญัตติค้างการพิจารณามาจากการประชุมฯวานนี้(13 ก.พ.) ที่เกิดเหตุการณ์องค์ประชุมรัฐสภาล่ม เนื่องมีสมาชิกบางส่วน โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภา(สว.) รวมถึงสส.บางพรรค วอล์คเอาต์ออกจากห้องประชุม ในช่วงเข้าสู่การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้เหตุผลว่าไม่ขอเข้าร่วมการประชุมฯที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเสี่ยงขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งกรอบเวลาในการอภิปราย ซึ่งเป็นไปตามที่วิป3ฝ่าย และตัวแทนคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ 19 ชั่วโมง แบ่งเป็น สส.ฝ่ายรัฐบาล กับผู้แทนรัฐบาล 6 ชั่วโมง สส.ฝ่ายค้าน 6 ชั่วโมง สว. 6 ชั่วโมง และประธานที่ประชุม 1 ชั่วโมง
จากนั้นประธานฯได้เริ่มดำเนินการเพื่อเข้าสู่ระเบียบวาระ และให้นายพริษฐ์ แถลงญัตติ แต่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงประธานฯว่า ขณะนี้องค์ประชุมยังไม่พอที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระ ทำให้ขัดข้อบังคับ แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่าดำเนินการไปตามข้อบังคับ เพราะสมาชิกมาลงชื่อครบองค์ประชุม ก็ต้องดำเนินการประชุม ขณะนี้องค์ประชุมมาลงชื่อครบแล้ว แต่นพ.ชลน่าน แย้งว่า แม้สมาชิกจะลงชื่อครบองค์ประชุม เป็นไปตามข้อบังคับ ประธานสามารถเปิดองค์ประชุมได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ องค์ประชุมที่อยู่ในห้องประชุมก็ต้องครบด้วย ประธานรัฐสภา จึงชี้แจงย้ำอีกครั้งว่า ตนทำตามหน้าที่ เมื่อครบจำนวน ก็เปิดประชุมไปตามระเบียบวาระ หากในระหว่างการพิจารณา นพ.ชลน่าน ก็สามารถใช้สิทธิ์นับองค์ประชุมได้ หากไม่ใช้สิทธิ์ ตนก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบวาระ
ทำให้นพ.ชลน่าน ใช้สิทธิ์เสนอขอนับองค์ประชุม แต่ฝั่งพรรคประชาชน พยายามประท้วง โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ประธานฯวินิจฉัยให้นายพริษฐ์ เข้าสู่ญัตติแล้ว แต่นพ.ชลน่านใช้สิทธิ์ประท้วง ชัดเจนว่านพ.ชลน่าน จงใจทำผิดข้อบังคับ เพื่อเสนอญัตติแทรกเข้ามาในระหว่างการพิจารณาญัตติของนายพริษฐ์ ซึ่งสมาชิกไม่มีสิทธิ์เสนอใดๆ จึงขอให้ประธานวินิจฉัย ทำให้นพ.ชลน่าน โต้ว่า การลุกขึ้นเสนอขอนับองค์ประชุม เป็นเอกสิทธิ์สมาชิก จะทำเวลาใดก็ได้ ประธานฯก็วินิจฉัย และรับญัตติตนแล้วว่ากระทำได้
ทำให้บรรยากาศการประชุมเริ่มวุ่นวาย เพราะนายพริษฐ์ ได้พยายามชี้แจงที่จะเดินหน้าแถลงหลักการและเหตุผลในการเสนอญัตติ แต่ส.ส.เพื่อไทย ได้ประท้วงและขอให้นับองค์ประชุมก่อนเสนอญัตติ นายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยว่า แม้ว่าจะให้เริ่มแถลงญัตติแล้ว แต่เมื่อมีการเสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุม สามารถทำได้ ประธานก็ต้องดำเนินการนับองค์ประชุม โดยไม่มีเหตุผลอะไร เพราะการเสนอนับองค์ประชุมเป็นเอกสิทธิ์ พร้อมกับแจ้งให้สมาชิกรัฐสภากดบัตรแสดงตน
ทั้งนี้ มีสมาชิกรัฐสภายกมือประท้วงจำนวนมาก แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ไม่อนุญาตพร้อมบอกว่า จะให้สิทธิประท้วงทุกคน แต่หลังจากที่นับองค์ประชุมแล้วเสร็จ และได้ปิดไมโครโฟนของสมาชิกรัฐสภา ทำให้ห้องประชุมเป็นไปอย่างวุ่นวาย มีสมาชิกรัฐสภา ตะโกนประท้วงนายวันมูหะมัดนอร์ จนทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวขึ้นว่า “หากไม่อยู่ในระเบียบ ต้องให้เจ้าหน้าที่มาเชิญ มาว่าผมเข้าข้างฝ่ายรัฐบาลหรือ ขอให้ประธานวิปแต่ละฝ่ายดำเนินการ”
ทั้งนี้นายพริษฐ์ ขอหารือว่า การเสนอนับองค์ประชุมที่ผ่านมามีการให้หารือ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ให้สิทธิเพื่ออธิบายให้กับสมาชิกรัฐสภาที่เสนอขอนับองค์ประชุมได้รับทราบ
ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า “หากองค์ประชุมไม่ครบ ขอให้ไปแถลงกับสื่อมวลชน ผมเข้าใจนายพริษฐ์ ถึงบรรจุ คุณไม่ต้องส่ายหัว หากผมไม่จริงใจ ก็จะไม่บรรจุ ผมให้ความสำคัญกับคุณ แต่คุณไม่ให้ความสำคัญกับประธานเลย เราจะดื้อเอาตามใจของแต่ละคนไม่ได้ ท่านคงไม่ใส่ร้ายผมว่าไม่เป็นกลาง หากไม่กลาง คงไม่บรจุวาระ”
ทันใดนั้นเอง น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ก็ลุกขึ้นเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าจะมีสมาชิกรัฐสภากี่คนและยินดีพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ นพ.ชลน่าน อภิปรายว่า การนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ เป็นไปตามข้อบังคับ แต่ข้อบังคับข้อที่ 56 กำหนดว่าการนับองค์ด้วยการขานชื่อ ต้องให้รัฐสภาอนุมัติ หากรับญัตติดังกล่าวต้องถามให้สมาชิกรัฐสภาอนุญาตและต้องตรวจสอบองค์ประชุม
ทั้งนี้ บรรยากาศในห้องประชุมยังประท้วงวุ่นวาย ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ขอให้พักการประชุมเพื่อให้ทุกฝ่ายหารือร่วมกัน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ให้พักการประชุม 20 นาที ในเวลา10.10น. หลังจากที่ประชุมได้เปิดประชุมไปเพียง 30 นาที
ต่อมา เมื่อกลับมาประชุมใหม่ มีการตรวจสอบองค์อีกครั้ง ปรากฏว่า มีสมาชิกรัฐสภาเข้าประชุมเพียง 175 คน จากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 620 คน ทำให้เสียงในที่ประชุมไม่ครบ จึงไม่สามารถเปิดประชุมเพื่อพิจารณาวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ สั่งปิดการประชุมทันที