เด็กภูมิใจไทย งง ดีเอสไอรับทำคดีเลือกตั้ง สว. ตั้งคำถาม 4 ข้อ ขัดรธน.หรือไม่

เด็กภูมิใจไทย งง ดีเอสไอรับทำคดีเลือกตั้ง สว. ตั้งคำถาม 4 ข้อ ขัดรธน.หรือไม่
‘คารม’ ยก 4ประเด็น ถาม ‘ดีเอสไอ’ งงทำคดี ‘ฮั้วเลือกสว.ปี 67’ ได้หรือไม่ ซัด รมว.ยุติธรรม ใช้อำนาจล้มฝ่ายนิติบัญญัติ ชี้เสี่ยงขัด รธน. .

นายคารม พลพรกลาง  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนักกฎหมาย กล่าวถึงกรณี ที่มีกลุ่ม ผู้สมัคร สว. ที่ไม่ได้รับเลือก ไปยื่นหนังสือต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  โดยอ้าง การเลือกสว.มีการฮั้วกัน และมีแนวโน้มดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษว่า เรื่องนี้  ต้องรับว่าเป็นเรื่องใหญ่  และเป็นประเด็นทางกฎหมายที่น่าสนใจมาก   เพราะดีเอสไอที่ถูกตั้งขึ้นในปี 2545 มีเจตนาเพื่อเป็นพนักงานสอบสวนในคดีอาญา

 

ในคดีอาชญากรรมที่มีผลกระทบเศรษฐกิจ  มีการกระทำความผิดที่ซับซ้อน เป็นเครือข่ายอาชญากรรมเดิมนั้นเดิมผู้ที่ทำหน้าที่สอบสวนคดีอาญาทุกประเภท คือพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  จากพระราชพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ  ฯ นั้น  กำหนดให้  กรมสอบสวนคดีพิเศษ สังกัดกระทรวงยุติธรรม  ซึ่งเป็นฝ่ายการเมือง  มีรมว.ยุติธรรม เป็นผู้กำกับ เพราะฉะนั้น เมื่อพิจารณาเจตนารมณ์ในการจัดตั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น  จะเห็นว่าต้องการให้มีพนักงานสอนสวนในคดีอาญาที่มีความสลับซับซ้อนมากกว่าคดีอาญาทั่วไป   แต่ไม่น่าจะรวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้เฉพาะ  และข้าราชการในกรมสอบสวนคดีพิเศษ  เป็นเพียงพนักงานสอบสวน  เหมือนพนักงานสอบสวนคดีอาญาทั่วไป  การฟ้องคดีจึงต้องส่งผ่านพนักงานอัยการ  เพื่อฟ้องคดี   ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามปกติของการฟ้องคดี

 

นายคารม กล่าวต่อว่า ส่วนสมาชิกวุฒิสภา(สว.)  เป็นผู้ที่มาตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา  107 ถึง 113  การเลือกตั้ง  หรือการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ  ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด  และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ฯ  และคนรับรองสมาชิกวุฒิสภา  คือกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้นการที่ดีเอสไอ จะนัดประชุมคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ  ในวันที่  25ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาว่าจะรับคดีที่ผู้ลงสมัครสว. แต่ไม่ได้รับเลือกมาร้อง และอ้างว่าการเลือกตั้ง  เป็นไปโดยไม่ชอบนั้น  จึงมีคำถามทางกฎหมาย ว่า 1.แม้รมว.ยุติธรรมจะบอกว่า  อาจรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา สามารถทำได้เพราะถือกฎหมายคนละฉบับ แต่เมื่อพิจารณาให้ลึกซึ้งและละเอียดแล้ว การพ้นตำแหน่งของสมาชิกวุฒิสภาภายหลังจาก กกต. รับรองแล้ว  ย่อมเป็นไปตามมาตรา111 ของรัฐธรรมนูญ  แม้ดีเอสไอจะสอบสวนคดีพิเศษ จะมีการดำเนินคดีก็อาจทำได้เฉพาะบุคคล แต่แม้จะดำเนินคดีอาญาเฉพาะบุคคล ในสมัยประชุม  ก็ต้องขออำนาจจากสภา  หากจะจับกุม  คุมขังในสมัยการประชุมสภาก็ไม่อาจทำได้

         

นายคารม กล่าวอีกว่า 2. คดีที่อ้างว่าการเลือกตั้ง สว. ไม่ชอบด้วนกฎหมาย  แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้รับรองและยืนยันแล้ว ว่าไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามคำกล่าวหา  หรือคำร้อง และกกต. เป็นองค์กรที่จัดการเลือกตั้ง ได้รับรองแล้ว  แต่หากกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเป็นคดีพิเศษ และให้มีการดำเนินคดีอาญากับ สว. จะถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 3.การที่รมว.ยุติธรรมอ้างว่า มีสมาชิกวุฒิสภา มีจำนวนถึง 138 คน และดีเอสไอดำเนินคดีจนต้องพ้นตำแหน่งทั้ง 138 คน  ซึ่งเกินกึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภา  ก็ต้องมีการเลือกวุฒิสภาขึ้นใหม่ เพื่อให้ครบ 200 คนถึงจะปฎิบัติหน้าที่ได้  ตามรัฐธรรมนูญมาตรา  107  ย่อมแปลได้ว่าดีเอสไอ สามารถล้มการเลือกสมาชิกวุฒิสภาได้ ทั้งที่สมาชิกวุฒิสภามาตามรัฐธรรมนูญ และ 4.การที่รมว.ยุติธรรม  ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารและเป็นผู้บังคับบัญชากรมสอบสวนคดีพิเศษ  แต่ใช้อำนาจตามกฎหมาย  ซึ่งเป็นเพียงพระราชบัญญัติ  และมีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ มาดำเนินการ ซึ่งหากเป็นไปตามที่มีผู้สมัคร สว. ที่ไม่รับการเลือกตั้งร้องมา ก็อาจทำให้ สว. ต้องหลุดไป  หรือปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ ถึง  138  คน  นั้น ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญได้ไหม และมีผลอย่างไร หรือเป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่  โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญาทั่วไป 

        

“ประเด็นเรื่องนี้ จึงเป็นประเด็นที่สำคัญทางกฎหมายอย่างยิ่ง  สามารถนำเอาไปทำวิทยานิพนธ์ ได้เลย  เพราะเป็นการใช้อำนาจ  ขององค์กรทางการบริหาร มาล้มล้างฝ่ายนิติบัญญัติ  ที่ดูสุ่มเสี่ยงว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ  และอาจเป็นจุดจบของฝ่ายนิติบัญญัติ  หากกรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถทำได้ เพราะถ้าตรวจสอบสมาชิกวุฒิสภาจนต้องหลุดไปทั้งที่กกต. รับรองไปแล้ว ต่อไปก็จะมีการตรวจสอบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เช่น  โดยมีการอ้างว่า  มีการฮั้วการเลือกตั้ง อำนาจกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะใหญ่กว่าอำนาจของประชาชน  ผมเชื่อว่า เจตนารมณ์ของกฎหมาย  ตอนร่างขึ้นไม่น่าจะเป็นแบบนี้ “ นายคารม กล่าว

TAGS: #ฮั้วเลืกอตั้งสว #ดีเอสไอ