พรรคไทยสร้างไทยเตรียมชวนประชาชนลงชื่อฟ้อง ค่าไฟแพง"สุดารัตน์"เปิด 3 ขั้นตอน ปรับโครงสร้างพลังงานลดค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรมไม่เกิน 3.50 บาท/หน่วย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เบอร์ 32 เตรียมชวนประชาชนลงชื่อฟ้องภาครัฐ ในความผิดฐานสร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายผิดพลาดหรือบกพร่อง จากกรณีการทำสัญญา ให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็นถึงเกือบ 60 %! ทำให้ประชาชน ต้องจ่ายค่าไฟสูงเกินความเป็นจริงทั้งที่เอกชนเจ้าของโรงไฟฟ้าไม่ต้องผลิตไฟแม้สัก 1 MW. เปรียบได้กับสัญญาทาส ที่ปล้นประชาชนหรือไม่
โดยตั้งข้อสงสัยว่าค่าพร้อมจ่าย (AP) จากการเซ็นสัญญาระหว่างรัฐกับเจ้าสัวโรงไฟฟ้า เป็นการส่อเอื้อผลประโยชน์นายทุนหรือไม่ เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าจริงอยู่ที่ 33,000 เมกะวัตต์ แต่กลับเซ็นต์สัญญาอนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้าสูงถึง 54,000 เมกะวัตต์ เกินความจำเป็นถึง60% ทำให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟส่วนเกิน 26,000 ล้านบาท/ปี
ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย ขอทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยที่ถูกเอาเปรียบ โดยขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมลงชื่อ เพื่อฟ้องร้องผู้ที่มีอำนาจอนุมัติ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ต่อศาลฯ เพื่อให้พิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้น จากความบกพร่อง หรือ ความผิดพลาดของภาครัฐ ที่ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้จริงให้เอกชนสูง 0.70 บาท/หน่วย โดยที่เอกชนไม่ได้ผลิตไฟฟ้าสักหน่วย จึงเป็นการผลักภาระให้ประชาชน แบบนี้เรียกว่าปล้นประชาชนหรือไม่?
ทั้งนี้ ถ้าพรรคไทยสร้างไทย ได้เป็นรัฐบาล เรามีแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรม ไม่เกิน 3.50 บาท/หน่วย ด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้
1) ทำทันที ปรับค่า FT ลดค่าพร้อมจ่าย (AP) 0.70 บาท/หน่วย และลดค่าประกันความร้อน (EP) 0.30 บาท/หน่วยทันที จะสามารถลดค่าไฟฟ้าทันที 1 บาท/หน่วย และจะสั่งเปลี่ยนนโยบายการจัดสรรแก๊ส LNG เพื่อให้มาใช้ผลิตไฟฟ้าให้ประชาชนก่อน แล้วค่อยนำไปขายทำกำไร
2) เจรจากับเอกชนที่รับสัญญา โดยโรงไฟฟ้าเก่าใกล้ปลดระวาง ให้ดำเนินการปลดเร็วขึ้น และโรงไฟฟ้าใหม่ ที่ยังไม่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ให้ชะลอเวลา COD ออกไปก่อน ส่วนที่รับสัญญาไปแล้วแต่ยังไม่สร้างให้ชะลอการสร้างออกไป และที่สำคัญต้องหยุดให้สัปทานโรงไฟฟ้าใหม่กับเอกชนรายใหญ่ๆ
เพิ่มสัดส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 30-40% เช่น การรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) จริงๆ เพราะราคาถูกเพียง 2.89 บาท/หน่วย สามารถใช้ได้ถึงกรุงเทพฯ โดยมีเงื่อนไขต้องไม่ใช่ไฟฟ้าที่มาจากเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง
3) สนับสนุนให้เกิดโรงไฟฟ้าชุมชนอย่างจริงจัง เป็นพลังงานสะอาด เช่น แสงแดด ลม,ขยะ อย่างเต็มที่ บริหารจัดการอย่างโปร่งใส และไม่โกง ทำให้ชุมชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง รวมถึงสนับสนุนการติดแผงโซลาร์เซลล์ ให้บ้านประชาชน โดยรัฐอุดหนุน ทำให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าฟรีบางส่วน ลดค่าใช้จ่าย ซึ่งถือว่าเป็นการให้ประชาธิปไตยทางพลังงานคืนกับประชาชน เพราะทุกวันนี้เป็นการจัดสรรทรัพยากรแบบเผด็จการให้นายทุนทั้งสิ้น