"ชูศักดิ์" เผย ต่อไปตั้งรมต.-ขรก.การเมือง ต้องระวังเต็มที่หลัง ศาลรธน.ไม่รับตีความ "ซื่อสัตย์สุจริต" เหตุคนที่ตั้งต้องรับผิดชอบ ชี้เรื่องนี้ควรนำไปสู่การแก้รธน.ทั้งฉบับ เพื่อให้ตีความเกิดความชัดเจน
"ชูศักดิ์" ชี้ ต้องแก้รธน.ทั้งฉบับ ตีความ ปม"ซื่อสัตย์สุจริต" หลังศาลรธน.ไม่รับคำร้อง
ชูศักดิ์ เผย กรณีศาลรธน.ไม่รับตีความบรรทัดฐานความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น รมต. จำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจกันเอง ต่อไปต้องระมัดระวังเต็มที่ คนที่ตั้งต้องรับผิดชอบ ชี้เรื่องนี้ควรนำไปสู่การแก้รธน.ทั้งฉบับ เพื่อให้ตีความเกิดความชัดเจน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย กรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยคำร้องของคณะรัฐมนตรี ที่ให้ตีความคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองในเรื่องความชื่อสัตย์สุจริต ว่า เรื่องนี้ศาลตอบมาค่อนข้างชัดเจน ซึ่งเราก็พอทราบแนวทางของศาลอยู่สมควร จากในอดีตที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่า เรื่องนี้มีปัญหาในแง่ของการตีความ และหลักสำคัญคือ เวลาจะแต่งตั้งใครต้องเอาประวัติมาดู และประวัติแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น บางคนถูกปรับข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอด ก็ต้องถามว่า แบบนี้ถือว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ แปลว่า ดุลยพินิจมันกว้าง และหลักสำคัญของกฏหมายของประเทศ ต้องมีนิติรัฐ นิติธรรม กฏหมายต้องมีความแน่นอน เราถึงพยายามทำเรื่องนี้ให้ชัด
“เมื่อศาลไม่ตอบเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แปลว่า ต่อไปนี้เวลาแต่งตั้งตัวบุคคลต้องใช้ดุลยพินิจกันเอง ว่า สมควรหรือไม่ เป็นอย่างไร”นายชูศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ หากจะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีหลังจากนี้ก็ต้องสุ่มเสี่ยงไปแบบนี้หรือไม่ นายชูศักดิ์ ยอมรับว่า จะมองว่า สุ่มเสี่ยงก็ได้ แต่หมายความว่า ต้องใช้ความระมัดระวังเต็มที่
ส่วนจะต้องพิจารณาการแต่งตั้งครม.อย่างละเอียด เหมือนตอนตั้งครม.อิ๊ง 1 หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาให้สำนักเลขาธิการครม.เป็นคนตรวจสอบเบื้องต้น และทางเลขาธิการครม.ก็อาจสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฏีกา ซึ่งพอเป็นเรื่องของดุลยพินิจ ก็เป็นหน้าที่ของคนที่รับผิดชอบต้องชั่งน้ำหนักดูว่าเป็นอย่างไร
ถ้าเกิดมีรายชื่อออกมาแล้วสังคมต้องข้อสงสัยจะสามารถตั้งได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อไม่มีเกณฑ์ตายตัว ทั้งหมดต้องเอามาประมวลกัน แต่ท้ายที่สุดคนที่ตั้งเป็นผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้ ท้ายที่สุดแล้วคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้ต้องมีประวัติขาวสะอาด หรือไม่มีข้อครหาใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า “ก็ต้องพูดตรงไปตรงมาบ้านเมืองเรามาแบบนี้ มีพรรคการเมือง นักการเมืองไม่ใช่นักบวช ไม่ใช่พระ ขณะพระก็มีข้อครหาพอสมควร มันพูดยาก ต้องดูจนกว่า เราทำการเมืองให้ใสสะอาด”
ส่วนจำเป็นต้องกำหนดเป็นบรรทัดฐานในการเข้ามาดำรงตำแหน่งหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งก็มาจากรัฐธรรมนูญที่เขาเรียกกันว่า ปราบโกงที่เขียนเอาไว้ แต่หลักสำคัญควรมีมาตรฐานชัดเจน กฏหมายมีความแน่นอน ไม่เปิดโอกาสให้ตีความได้หลายทาง และหากมีโอกาสแก้รัฐธรรมก็ต้องมีการพูดคุยกัน โดยยืนยันว่า อยากทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน และหวังว่า จะมีการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
