ฝ่ายค้านยอมตัดชื่อ “ทักษิณ”ใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัวซึ่งเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี”แทน

ฝ่ายค้านยอมตัดชื่อ “ทักษิณ”ใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัวซึ่งเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี”แทน
พรรคฝ่ายค้านยอมแก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยอมตัดชื่อ"ทักษิณ"ออกแล้วใส่ข้อความ “บุคคลในครอบครัวซึ่งเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี”แทน

พรรคฝ่ายค้านยอมแก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยอมตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาออกแล้วใส่ข้อความ “บุคคลในครอบครัวซึ่งเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี”แทน โดยจะมีการยื่นญัตติใหม่ต่อประธานสภาฯอีกครั้งโดยไม่ต้องเซ็นชื่อใหม่ มีแค่ใบปะหน้า

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในการประชุมระหว่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กับพรรคฝ่ายค้านนั้นทางนายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันถ้าไม่ตัดไม่บรรจุญัตติให้ ซึ่งคำไม่มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ในการเจรจาดังกล่าวทางฝ่ายค้านพยายามขอให้คงคำว่าบิดาไว้ให้ตัดเฉพาะนายทักษิณออก แต่นายวันมูหะมัดนอร์ยืนกรานว่าไม่ได้ ในที่สุดจึงตกลงกันว่าให้ใช้ข้อความ “บุคคลในครอบครัวซึ่งเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี”แทน

สำหรับ ข้อความในญัตติในวรรคดังกล่าวมีข้อความว่า  สมัครใจยินยอมให้บุคคลในครอบครัวซึ่งเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ชี้นำชักใยให้กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด 

สำหรับจำนวนวันอภิปรายฯนั้นเบื้องต้นมีรายงานว่า ฝ่ายรัฐบาลต้องการให้อภิปรายภายใน 2 วันคือ 24 และ 25 มีนาคม และโหวดวันที่ 26 มีนาคม แต่ฝ่ายค้านต้องการ 30 ชั่วโมง ซึ่งวิป 2 ฝ่ายจะมีการหารือกันอีกครั้งในเย็นวันเดียวกัน 

ด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โดยระบุว่า จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งจะมีการปรับคำพูดตามที่หารือกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ต้องมาหารือกันอีกครั้งกับวิปรัฐบาลว่ารายละเอียดคำจะเป็นอย่างไร รวมถึงระยะเวลาที่จะใช้อีกด้วย โดยเหตุผลในการปรับคำก็เพื่อให้การอภิปรายสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยที่ต้องไม่เสียหลักการ

สำหรับ สิ่งที่ได้กรอบชัดเจนจากการพูดคุยนอกรอบ คือ หากจะมีการให้ปรับคำในการอภิปรายครั้งนี้ ระยะเวลาที่ฝ่ายค้านจะต้องได้รับเพื่ออภิปรายคือ 30 ชั่วโมง แต่จะเป็นกี่วันยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะยังไม่ทราบว่าฝั่งรัฐบาลจะใช้เวลาชี้แจงเท่าใด ผู้สื่อข่าวยังถามถึงการจำกัดการเอ่ยชื่อบุคคลภายนอกของประธานสภานั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตราบใดที่บรรจุญัตติได้ สมาชิกก็สามารถอภิปรายได้อยู่แล้ว หากเกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอก ก็เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกเอง ส่วนสัญญาณในการท้วงติงจากฝ่ายรัฐบาล ต้องรอการประชุมร่วมวิปสามฝ่าย ในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ พร้อมกับพูดคุยเรื่องกรอบจำนวนวันในการอภิปรายทั้งหมด ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ ในเวลา 30 ชั่วโมง ที่พูดในการหารือนอกรอบนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ประธานสภาเห็นด้วยกับตน ซึ่งเชื่อมั่นว่าถ้าฝ่ายค้านทำข้อมูลได้ดีก็เป็นภาพดี หากเตรียมเนื้อหาไม่ดีก็เป็นภาพที่ไม่ดีกับฝ่ายค้านเอง

สำหรับ การปรับคำจาก นายทักษิณ เป็น พ่อนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ย้ำว่าต้องมีการเจรจาระหว่างวิปว่าจะปรับเป็นคำอะไร ซึ่งตั้งแต่ตอนเช้าที่หารือผ่านมา ตนคิดว่าไม่ได้เสียหลักการของญัตติอภิปรายอะไร หนังสือที่ประธานสภาทำมาก่อนหน้านี้ก็ระบุว่า สามารถเปลี่ยนคำได้ โดยที่ไม่เสียหลักการ อีกทั้งยังพูดในที่ประชุมว่าสมาชิกสามารถอภิปรายถึงบุคคลภายนอกได้ โดยที่ต้องรับผิดชอบเอง ตรงนี้ตนคิดว่าคำพูดประธานจะผูกมัดกับรองประธานทั้งสองท่าน

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงสัดส่วนเนื้อหาการอภิปราย ว่า เป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว แต่หนีไม่พ้นว่าการอภิปรายต้องพาดพิงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ครั้งนี้ญัตติอภิปรายนายกฯ ในแง่ที่ยอมให้นายทักษิณเป็นผู้ชี้นำอยู่เบื้องหลัง ส่วนการวางตัวเป็นกลางของประธานสภานั้น ตนเห็นว่า คำตอบที่เกิดขึ้นในการหารือระหว่างประชุมสภาเช้านี้ มีการถ่ายทอดสด ทำให้ตนมั่นใจมากขึ้น ส่วนการรับผิดชอบในการพาดพิงนั้น นายณัฐพงษ์ มองว่าเป็นสิทธิของผู้ถูกพาดพิงที่จะฟ้องร้องหรือชี้แจง แต่สำหรับนายทักษิณ ที่เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีก็สามารถชี้แจงกับสื่อมวลชนได้อยู่แล้ว เพราะได้รับความสนใจ หรืออยากจะเข้ามาชี้แจงในสภาตนก็ยินดี

TAGS: #ทักษิณ #ฝ่ายค้าน #ประชุมสภา #ซักฟอก #อภิปรายไม่ไว้วางใจ