ร.อ.ธรรมนัส สั่งปักหมุด ส.ส.ภาคเหนือทุกเขต มั่นใจ รอบนี้ปักธงภาคใต้ได้ ย้อนถาม เศรษฐา มีอำนาจตัดสินใจปฏิเสธจับมือร่วมรัฐบาลหรือ เตือน พวกออกตัวแรง ระวังเสียคน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการเลือกตั้งในภาคเหนือ ได้เดินมาครึ่งทางแล้วว่า เรามียุทธศาสตร์ของเรา อยากปักหมุดทุกจังหวัด อย่างน้อยขอให้ได้ทุกจังหวัด 1-2 เขตก็ว่ากันไป ส่วน จ.พะเยา เรามีความมั่นใจอยู่แล้วว่าจะยกจังหวัด และน่าจะได้ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เดือนพฤษภาคมตนจะลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่หาเสียงที่ภาคใต้ในปลายเดือน เมษายนพร้อมกันนั้น พรรคพลังประชารัฐ มีแผนปราศรัยใหญ่ที่ จ.สงขลา ในวันที่ 28 เมษายน จากนั้นวันที่ 29 เมษายน จะไปปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครศรีธรรมราช
ส่วนการลงพื้นที่ภาคใต้พร้อมกันทั้งสองลุง จะเป็นอะไรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมือง อย่าไปมองเป็นประเด็นอื่น เพราะแผนเราทำไว้นานแล้ว ส่วนหนักใจหรือไม่ที่จะต้องแข่งกันเองกับคนของพรรคพลังประชารัฐที่ออกไปนั้น น้ำเก่าออกไป น้ำใหม่มีคุณภาพกว่า มีความมั่นใจว่าเราจะชนะ และจะได้เพิ่มอีกหลายจังหวัด อย่าง จ.พังงา ที่เราไม่เคยมี ส.ส. มั่นใจว่าจะปักหมุดได้ ส่วน จ.นครศรีธรรมราช หลับตาก็มองเห็นแล้ว อย่างเขต 1 ของนายรงค์ บุญสวยขวัญ กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส. พล.อ.ประวิตร สั่งระดมกำลังเข้าไปช่วย และตนเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้อีกทาง เขต 1 ผ่านแน่นอน เขต 2 ของนายสุภาพ ขุนศรี ก็ผ่าน ส่วนเขต 5 ของนายสุธรรม จริตงาม ถือว่าเป็นเต็งหนึ่ง รวมถึงเขต 3 ของนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง เราไม่แพ้ใครแน่นอน หลังจากหาเสียงที่ภาคใต้แล้ว วันที่ 30 เมษายนจะไปปราศรัยใหญ่ที่ จ.ขอนแก่น จากนั้นวันที่ 1 พฤษภาคม จะไปปราศรัยที่ จ.ร้อยเอ็ด
ส่วนผลโพลออกมาว่า พรรคพลังประชารัฐ จะได้ 70 ที่นั่ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เกรดเอบวกรวมกันก็ได้เกือบ 100 ที่นั่งแล้ว ในเรื่องของ ส.ส.แบบแบ่งเขต เรามีความมั่นใจ ส่วนใหญ่พื้นที่เลือกตั้งที่ได้ตอนปี 62 เกือบจะทุกจังหวัด เราสามารถรักษาพื้นที่ได้ ถึงแม้คนที่เป็น ส.ส.เก่าจะย้ายไปพรรคอื่น แต่เราก็หาคนใหม่มาลง เรามั่นใจว่าจะยึดพื้นที่ได้
เมื่อถามว่า โพลที่ออกมาไม่ใช่ตัวเลขที่พรรคคาดการณ์ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลายสำนักที่คาดการณ์ตัวเลขของพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคที่เคยร่วมรัฐบาลกันมาจะได้สูสี ถ้าเราจะเป็นรองคงเป็นรองพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย หรือจะอาจจะสูสีกับพรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นเราอาจจะได้มากกว่า
เมื่อถามถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ที่เอ่ยว่าจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ แบบนี้ปิดประตูแล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องถามว่าคนที่ออกมาพูดเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจหรือไม่
"บางคนเวลาไมค์จ่อปากก็พูดเอามัน ลืมไปว่า อ้าว ผมไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจ เรื่องของพรรคเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคในการตัดสินใจ"
ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ตนพูดมาเสมอว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องรอผลการเลือกตั้ง หลายพรรคที่ออกมาปฏิเสธไม่จับมือกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ แล้ววันหนึ่งอยากเป็นรัฐบาล ผิดคำพูดตัวเองต่อสาธารณะ ในทางสังคม การเมืองมันก็จะไม่เหมือนเดิม อยากฝากหลายพรรคที่ออกมาประกาศไม่จับมือกับคนนั้นคนนี้ มันยังไวเกินไป”
เมื่อถามว่า จะเป็นตัวประสานในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คงต้องช่วยกันรับนโยบายของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ส่วนหลังปิดหีบ ทุกอย่างจะชัดเจนหรือไม่นั้น ตนว่าก่อนปิดหีบ 5 โมงเย็น ก็รู้แล้วว่าใครจับมือกับใคร