'สุดารัตน์' ประกาศ "ไทยสร้างไทย" ลุยร่งดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ปราบโกงและ ลดค่าใช้จ่ายประชาชน
วันนี้ (22 เม.ย. 66) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค ไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี น.อ.อุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายนพดล มังกรชัย รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคไทยสร้างไทย ร่วมปราศรัยใหญ่พรรคไทยสร้างไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเวทีกล่าวถึงจดหมายเปิดผนึกสะท้อนความในใจ ว่า
"ในฐานะแม่ของลูก 3 คน และคิดเหมือนพ่อแม่หลายคน ที่ตอบลูกไม่ได้ว่า พวกเขาจะมีอนาคตในประเทศนี้อย่างไร และในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ดิฉันได้เดินทางไปทั่วประเทศได้สัมผัสความทุกข์ของพี่น้องทั่วประเทศ ที่วิ่งเข้ามากอด ร้องไห้ และฝากความหวังไว้กับดิฉัน ดิฉันได้แบกรับความทุกข์ของพี่น้องไว้เต็มหัวใจ ด้วย 2 เหตุผลนี้ ดิฉันจึงตั้งใจใช้ประสบการณ์ 30 ปี มาแก้ทุกข์ให้พี่น้องหายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืนให้สำเร็จ พร้อมนำทีมคนรุ่นใหม่ของพรรคไทยสร้างไทย ขอทำภารกิจครั้งสุดท้ายเพื่อ “สร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด ให้คนรุ่นต่อไป”
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถามว่า พอหรือยัง! กับ 17 ปีที่ประเทศต้องติดหล่มความขัดแย้งการเมือง 2 ขั้วเกิดรัฐประหาร 2 ครั้ง ทำประชาชนทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส ประเทศถดถอยทุกด้าน
ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าพี่น้องเลือกแบบเดิมๆ เลือกพรรคเดิมๆ เสี่ยงเกิดความขัดแย้งรอบใหม่ การรัฐประหารก็อาจจะเกิดขึ้นมาอีก ประเทศเดินต่อไม่ได้แก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ ก็แก้เศรษฐกิจไม่ได้
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวยืนยันว่า พรรคใหม่ แต่ มากประสบการณ์อย่าง “ไทยสร้างไทย” จะเป็นทางรอดของประเทศ เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่สนับสนุนเผด็จการ ไม่เอานักการเมืองฉ้อฉล และไม่เป็นนอมินีของใคร ไม่พาประเทศไปสู่วิกฤติ
"สำหรับพรรคไทยสร้างไทย “นายใหญ่” คือประชาชน ดิฉันขออาสาพาประชาชนไปสู่ชัยชนะ เร่งดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ดูแลคนไทยตั้งแต่เกิดจนแก่ให้อยู่อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี มั่นใจทำได้ทำจริง โปรดเลือกพรรคไทยสร้างไทยพรรค”ส” หมายเลข 32" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยระบุด้วยว่า จะขอปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ตรวจสอบสัญญาที่เสียเปรียบ เพิ่มภาระให้ประชาชน จากการอนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นถึงเกือบ 60% โดยประชาชนต้อง เป็นผู้จ่ายค่าไฟส่วนเกิน ที่โรงไฟฟ้าไม่ต้องผลิตแม้เมกกะวัตเดียว เปรียบเสมือนสัญญาทาส ที่ปล้นประชาชน เปิด 3 ขั้นตอน ปรับโครงสร้างพลังงานลดค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรมไม่เกิน 3.50 บาท/หน่วย จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันลงชื่อ เพื่อฟ้องหน่วยงานรัฐต่อศาลอาญา ทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ใน 3 ส่วนดังนี้
1. สร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ด้วยการให้เอกชนทำสัญญาสัมปทาน ผลิตไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงกว่าที่ควรเป็น
2. การจัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยซึ่งมีต้นทุนถูก ไปให้กับเอกชนไปใช้ในการผลิตสินค้าอื่น ส่งผลให้ต้องนำเข้า LNG จากต่างประเทศทดแทน ทำให้ต้นทุนการผลิตแพงกว่าถึง 5เท่า อันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าไฟแพง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และมาตรา 57
3. ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ในส่วนข้อตกลงกับเอกชน ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ยังไม่จำเป็น (ดีมานด์ทิพย์) ให้พักการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าประเทศจะมีความต้องการจริง ในการใช้พลังงานเพิ่มเติม