"เพื่อไทย" บุกสะพานพระราม 8 ปลุกคนกรุงฯ หยิบปากกาฆ่าเผด็จการ "เศรษฐา" ขอประชาชนเชื่อมั่น เศรษฐกิจ-ยาเสพติด จะถูกแก้ทันทีที่เป็นรัฐบาล
วันที่ 24 เม.ย. 2566 พรรคเพื่อไทยจัดงานปราศรัยคิดใหญ่ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ”ณ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นกล่าวปราศรัยภายใต้หัวข้อ “พลิกฟื้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของกรุงเทพฯ” โดยกล่าวว่า ปัญหาค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าน้ำมัน เป็นปัญหาใหญ่ ของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ หลายคนประสบปัญหาค่าไฟแพง ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ค่าไฟลดแน่นอน มีพรรคร่วมรัฐบาลมาหาเสียงมาบอกว่าจะลดราคาค่าไฟให้ ขอให้พี่น้องอย่าเออออ เขาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว ถ้าทำได้ คงทำไปแล้ว ทำไมต้องคอยให้เป็นรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ดังนั้น ขอให้พี่น้องมีความเชื่อและไว้ใจในพรรคเพื่อไทย เพราะเราคิดใหญ่ ทำเป็น
พร้อมย้ำถ้าได้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ต่อรถเมล์อีก 10 บาท จ่ายครบจบที่ 30 บาทเท่านั้น เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าภายในเวลา 4 ปีที่เราเป็นรัฐบาล ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และปีแรก ปรับขึ้นทันที 400 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน เติมเงินให้ทุกครอบครัวถึง 20,000 บาททุกเดือน และเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่เพียงเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ร้านค้าในชุมชน เอสเอ็มอี ก็ได้ประโยชน์ค้าขายไปด้วย พร้อมยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำนัดล่วงหน้าได้ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาที่ไหนก็ได้
“ไม่ต้องกลัวพรรคเพื่อไทยไม่มีเงิน เรามีวินัยการเงินการคลัง จัดสรรงบประมาณส่วนนี้มาได้แน่นอน มีพรรคการเมืองบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าไปเชื่อ เราคิดใหญ่ ทำเป็น และทำสำเร็จมาแล้ว นี่คือนโยบายที่เราคำนึงถึงความเดือดร้อน ความไม่สะดวกสบายของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก แต่นโยบายดีๆ เหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้ เมื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ให้ความไว้วางใจผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ทั้ง 33 คน ล้วนเป็นคนที่พรรคคัดสรรมาอย่างดี รู้ซึ้งถึงความต้องการของพี่น้องประชาชน ขยันทำงาน มีความตั้งใจจริง ขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรคของพรรคเพื่อไทยเข้าสู่สภา” นายเศรษฐากล่าว
ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวทักทายพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังปราศรัย พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี หลังการทำรัฐประหารของ คสช. ไม่ได้แก้ปัญหาความเป็นอยู่ให้พี่น้องประชาชน แต่พอถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่กลับมาบอกประชาชนจะแก้ปัญหา แต่ตัวเองเป็นรัฐบาลไม่เคยแก้
ย้ำเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งใจให้ใครไม่ได้ ต้องเลือกเพื่อไทยยกแผง ให้เพื่อไทยได้เข้าไปแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่วิกฤติขึ้นทุกๆ ปีภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงปัญหาพนันออนไลน์ และธุรกิจใต้ดินต่างๆ ที่รัฐบาลนี้ไม่สามารถแก้ได้ ต่างเป็นปัญหาที่ตนและอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ล้วนเคยแก้ไขมาแล้วในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะปํญหายาเสพติด ที่มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่เคยทำสำเร็จ
นายดนุพร ปุณณกัณฑ์ ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้จะชี้ทิศทางของประเทศว่าจะไปทางไหน ต้องเลือกพรรคการเมืองที่เหมาะสมกับทิศทางนั้น ถ้าปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจคือปัญหาใหญ่ของพี่น้องในทุกบ้านทุกตรอกซอกซอย ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยที่เก่งเศรษฐกิจ เพราะเราแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประสบความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ เรามีผลงานพลิกฟื้นวิกฤตเศรษฐกิจที่จมลึกให้ลุกขึ้นยืนมาได้หลายครั้งตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ถ้าปัญหาของพี่น้องคือยาเสพติด
เราก็เคยปราบยาเสพติดจริงจัง พาลูกหลานไปบำบัดนำกลับคืนสู่ครอบครัว รัฐบาลมีเวลาเท่ากับพี่น้องประชาชนคือปีละ 365 วัน แต่ถ้าเรามีนโยบายที่ดีที่คิดไว้แล้ว มีแผนงานที่ดีที่เตรียมไว้แล้ว เมื่อเราเป็นรัฐบาลก็ลงมือทำงานได้ และทำงานอย่างหนักทุกวัน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจพี่น้อง กระเป๋าเงินของพี่น้องจะต้องพลิกฟื้นกลับขึ้นมามีเงินมีทอง เรามีเวลา เราจะลงมือทำงาน ไม่ใช่เอาเวลาลางานไปถีบเรือเป็นอยู่สวนลุมพินี
นายดนุพรกล่าวอีกว่ารัฐบาลปัจจุบันนี้ ไร้ศักยภาพ ไร้ประสิทธิภาพ การเลือกตั้งครั้งนี้เราแพ้ไม่ได้ ความเดือดร้อนของพี่น้องรอไม่ได้แม้แต่วันเดียวเพราะพี่น้องหิวข้าวทุกวัน การฆ่ารัฐบาลเผด็จการที่ดีที่สุดคือการฆ่าด้วยประชาธิปไตยเท่านั้น “พลเอกประยุทธ์มาบอกว่าผมเหมือนคนขับเครื่องบินที่แก่ประสบการณ์ กัปตันต้องอายุเยอะหน่อย ขอโทษครับ ผมไม่ได้เลือกคุณให้มาขับเครื่องบิน ถ้าเลือกได้จะไม่มีนายกฯ ชื่อประยุทธ์ และสิ่งที่เขาทำคือ ขับเครื่องบินมาจอด แล้วเอารถถังปืนกลมาบังคับคนให้ไปขึ้นเครื่องบินที่เขาขับ เราจะยอมอีกไหม ถ้าไม่ยอม 14 พฤษภานี้อย่าแบ่งคะแนนให้ใคร มุ่งมั่นตั้งใจเข้าคูกากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบเท่านั้น” นายดนุพร กล่าว