“พรรคภูมิใจไทย” จัดงาน ก้าวสู่ปีที่ 17 ปีพร้อมเปลี่ยนโลโก้เป็น “พรรคสีน้ำเงิน”ตัวจริง เดินหน้าการเมือง สันติ สามัคคี เทิดทูนสถาบัน
พรรคภูมิใจไทย ทำบุญครบรอบวันก่อตั้งพรรค ก้าวสู่ปีที่ 17 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรค เข้าร่วมพิธีทางศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม
โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความครึกครื้น มีพรรคการเมืองร่วมแสดงความยินดี อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
จากนั้น มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 มีวาระสำคัญคือ การแก้ไขข้อบังคับพรรคภูมิใจไทย และเปลี่ยนโลโก้พรรค เป็นสีน้ำเงิน ล้วนทั้งหมดซึ่งหมายถึงการดำเนินงานทางการเมืองที่ยึดมั่นในวิถีของความเป็นไทย สื่อถึงความรักชาติ จรรโลงศาสนา และเทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทยทั้งชาติ ภายในการปกครองในระะบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทยว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีอายุครบ 16 ปี ในวันนี้ ว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีประสบการณ์การทำงานทางการเมือง และการบริหารมาแล้วทุกรูปแบบ ในทุกสถานการณ์การเมือง เป็นพรรคการเมืองฝ่ายบริหาร เป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นพรรคการเมืองที่ถูกแช่แข็งในห้วงเวลาการเมืองไม่ปกติไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด พรรคภูมิใจไทย สามารถบริหารจัดการพรรค ดูแลสมาชิกพรรคและดำเนินงานทางการเมือง มาได้โดยไม่มีสะดุด ไม่มีหยุดพัก
16 ปีที่ผ่านมาเราทำงานกันทุกวัน ไม่มีวันหยุด สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เข้าไปทุกพื้นที่ที่ประชาชนมีปัญหา ช่วยกันแก้ไขปัญหา ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน สม่ำเสมอ ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน จะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่ง แต่เราทุกคนมี หน้าที่ เพราะเราอาสามาเป็นผู้แทนราษฎร อาสามาทำงานการเมืองเพื่อพี่น้องประชาชนทุกลมหายใจของเรา คือ สำนึกในบุญคุณของประชาชน ตระหนักในความเดือดร้อนของประชาชน และ ทุกวันเวลาของเรา คือ ความตั้งใจจะทำงานเพื่อตอบแทนพี่น้องประชาชน
เพราะเราคิดกันแบบนี้ ทำงานกันแบบนี้ เพราะคนภูมิใจไทย เป็นแบบนี้จึงเป็นเหตุให้พรรคภูมิใจไทย เติบโตขึ้นทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง พี่น้องประชาชน ไว้ใจ เชื่อใจเรามากขึ้น จำนวนส.ส.ที่เพิ่มขึ้น คือ คำตอบว่า การทำงานของพรรคภูมิใจไทย เป็นที่ชื่นชอบ ของประชาชนมากขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะมีขึ้นเมื่อไร พรรคภูมิใจไทย จะเติบโตมากขึ้นกว่าปัจจุบัน จะได้รับโอกาส และความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น อีกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
16 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลง ทั้งการเปลี่ยนแปลงในระบบ และการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ ด้วยความรุนแรง ทำให้สถานะของพรรคภูมิใจไทย เปลี่ยนแปลงไปตามที่กล่าวไว้ตอนต้น แต่สิ่งหนึ่งที่พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังคงยึดมั่นเป็นอุดมการณ์สูงสุด เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคนภูมิใจไทย ไว้ได้ ก็คือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งมีความมั่นคง ไม่มีเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ และ ความจงรักภักดีต่อสถาบันสำคัญของชาติ หล่อหลอมพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งถูกเรียกว่า เป็นพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเราถือว่าเป็นการให้เกียรติต่อพรรคภูมิใจไทย และ เป็นการแสดงให้เห็นว่าพี่น้องประชาชน สื่อมวลชน ยอมรับ และสัมผัสได้ ถึงอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย และจิตวิญญาณของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตลอดจนองค์กรเครือข่ายที่ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย อาทิ องค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น ต่างๆ ทั่วประเทศ
สีน้ำเงิน หมายถึง ความสงบ ความสันติ และ ความสามัคคี
สีน้ำเงิน หมายถึง ความเข้มแข็ง ความมั่นคง ความหนักแน่น และความเป็นปึกแผ่น
สีน้ำเงิน หมายถึง ความมีสติ ความมีเหตุผล ความสุขุม นุ่มลึก ไร้ ริษยา ความเยือกเย็น และ ความอบอุ่น
สีน้ำเงิน คือ สีบนธงชาติไทย และเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันพระมหากษัตริย์
ความหมายของสีน้ำเงิน ถูกต้องตรงกับบุคลิกลักษณะ และอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย ทุกประการ
ดังนั้น วันนี้ พรรคภูมิใจไทย โดยที่ประชุมใหญ่ของพรรค จึงมีมติให้เปลี่ยนสีตราสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทย เป็น สีน้ำเงิน เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเรียก หรือ ฉายาที่พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน เรียกเรา พรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ ของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกคน
จากนี้ไป เมื่อกล่าวถึงพรรคสีน้ำเงิน ให้เป็นที่รับรู้ว่า คือ พรรคภูมิใจไทย แต่เราจะไม่นำความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ไปแบ่งแยกพี่น้องประชาชน หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยก หรือ สร้างสงครามสีเสื้อ สร้างความบอบช้ำ สูญเสียให้แก่พี่น้องประชาชน ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ของพรรคภูมิใจไทย จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นหลักให้กับการเมืองไทย ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง เข้มแข็ง ด้วยความสงบ สันติ สามัคคี สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่ประเทศไทย และธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตลอดไป
ในโอกาสที่วันนี้ เป็นวันครบรอบการก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ครบ 16 ปี จึงขอเชิญชวนให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกคน ร่วมกันเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรคภูมิใจไทย และร่วมกันประกาศตัวเป็นสมาชิกพรรคสีน้ำเงิน สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์การทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ตามอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทย คือ การธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และ นำพาพี่น้องประชาชน ก้าวเดินเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และ ภัยธรรมชาติรูปแบบต่างๆ ที่จะรุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และ คนไทย มากขึ้น ด้วยความปลอดภัย และมีความพร้อมที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ และทุกการเปลี่ยนแปลงของโลก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้น นายอนุทิน รัฐมนตรีของพรรค คณะกรรมการบริหาร และ สส.พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมกันเปิดผ้าคลุมที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นโลโก้และสัญลักษณ์ใหม่ เป็นสีน้ำเงินล้วน ไม่มีสีอื่นๆปนแต่อย่างใด