พรรคไทยสร้างไทย เอาจริง ประกาศชนกลุ่มทุนผูกขาด ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ ตัวการทำค่าไฟฟ้าแพง เอาผิดอาญา ตามมาตรา 151 และ 157 สร้างความเสียหายต่อรัฐและประชาชน
พรรคไทยสร้างไทย ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีส่วนทำให้ค่าไฟฟ้าแพง ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย ระบุ หลังจากที่พรรคไทยสร้างไทยได้รับฟังผลกระทบของประชาชน ที่ขยายตัวเป็นวงกว้าง จากราคาค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นเกือบ 30% ประกอบกับการติดตามตรวจสอบข้อมูลมาระยะหนึ่ง พบว่า การขึ้นค่าไฟฟ้าไม่ได้มาจากความต้องการในการบริโภคไฟฟ้ามากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความผิดพลาดในการบริหารนโยบายด้านพลังงานของผู้มีอำนาจ และพฤติการณ์ที่ส่อว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหลายราย ในการอนุมัติสัญญาสัมปทานและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เกินความต้องการของประเทศ
พรรคไทยสร้างไทย จึงได้ยื่นฟ้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้า ตามพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2540 และพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2511 ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการกำหนดมาตรการ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและเชื่อถือเกี่ยวกับไฟฟ้า โดยต้องกำหนดปริมาณให้สอดคล้อง และใกล้เคียงกับความเป็นจริงตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศในแต่ละช่วงเวลา
แต่ผู้ถูกฟ้องได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ดำเนินการกำหนดกรอบ หรือ เพดานของสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชนในระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศ และกำหนดปริมาณไฟฟ้าสำรองอันเกี่ยวกับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของเอกชนเกินความจำเป็นและสูงกว่าการบริโภค หรือความจำเป็นด้านความมั่นคงด้านพลังงาน ส่งผลต่อกระทบอัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนสูงเกินความเป็นจริงและยังมีไฟฟ้าสำรองเหลือการบริโภคที่เอื้อประโยชน์หรือส่อไปทางทุจริตหรือประพฤติมิชอบให้เอกชนที่เป็นคู่สัญญาได้ประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินหรือเงินของประชาชน
การกระทำของผู้ถูกฟ้องซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ของ กฟผ.ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่โจทก์ รัฐ และประชาชน หรือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ หรือรัฐและประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชนคู่สัญญาให้ได้รับประโยชน์จากค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) แล้วผลักภาระค่าใช้จ่ายให้โจทก์และประชาชนหรือรัฐเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157จึงขอศาลได้โปรดพิจารณารับฟ้องและไต่สวนมูลฟ้องเรียกพยานหลักฐานที่อยู่ในความครอบครองของผู้เกี่ยวข้องเพื่อเอาผิดต่อไปด้วย