พรรคประชาชนลงพื้นที่ ตึกสตง.ถล่ม ให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย ลุยหาคำตอบแรงงานข้ามชาติยังไม่ได้รับเงินชดเชยเต็มสิทธิ์ เสนอประสานสถานทูตช่วยพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อความเป็นธรรม
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้สูญหายจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นและร่วมสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือของสำนักงานเขตจตุจักร
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานและผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณแล้ว โดยมี ส.ส.ในพื้นที่ร่วมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านนายวิโรจน์ระบุว่า การตรวจสอบสาเหตุอาคารถล่มจำเป็นต้องพิจารณาใน 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ การออกแบบ การควบคุมงาน และการตรวจรับงาน ซึ่งทั้ง 3 ส่วนดำเนินการโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และการตรวจรับงานถือเป็นจุดสำคัญที่สุด เพราะหากมีการแก้ไขแบบ วิศวกรควบคุมต้องประสานงานกับคณะกรรมการตรวจรับงานของ สตง.
นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณภาพวัสดุก่อสร้าง และประเด็นความเชื่อมโยงของวิศวกรควบคุมกับผู้มีอำนาจใน สตง. โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม
นายวิโรจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ สตง. ชี้แจงยังไม่เพียงพอ และยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องตรวจสอบ เช่น ความถูกต้องของกระบวนการประกวดราคา และความเชื่อมโยงกับบริษัทที่ปรึกษาต่างๆ ซึ่งหากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) จะถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคลี่คลายให้ชัดเจน
ในส่วนของการเยียวยาญาติผู้สูญหาย นายณัฐพงษ์ย้ำว่า ไม่ว่าจะได้รับเงินจำนวนเท่าใดก็ไม่สามารถทดแทนชีวิตที่สูญเสียไปได้ โดยฝ่ายค้านจะผลักดันให้รัฐบาลเยียวยาอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างชาติที่ยังไม่ได้รับการชดเชยอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ พรรคประชาชนยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย รวมถึงพร้อมสนับสนุนแนวทางของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประชาชน
นายวิโรจน์ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้สถานเอกอัครราชทูตเมียนมาร่วมอำนวยความสะดวกในการพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างชาติที่สูญหาย ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับเงินเยียวยา
สุดท้าย นายวิโรจน์เปิดเผยว่า ข้อมูลจำนวนแรงงานที่ได้รับผลกระทบอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากมีนายจ้างบางรายเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีจากการใช้แรงงานที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือไม่มีประกันสังคม ซึ่งตนได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแล้ว เพื่อหาทางแก้ไขและเปิดเผยตัวเลขแรงงานที่แท้จริง