ปรับครม.เริ่มเดือด "อนุทิน"ต่อกลอนนายกฯ"ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง คนบ่ดูหนังสือยังสอบได้ คนดูหัวแทบพังยังสอบตกนา เพราะฉะนั้นไซร้ อย่าได้ดูมัน"หลังพท.รุกยึดมหาดไทย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินทางเพื่อเข้าพบน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลังเสร็จภารกิจที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อประชุมเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดย นายอนุทิน กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ไม่มี ไม่เคยมี ทำไมถึงถามเรื่องนี้เยอะจัง ไม่เข้าใจ
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวพยามถามย้ำว่า มีกระแสข่าวลือว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะทวงคืนกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวคิดเองว่าเป็นกระแสข่าวลือ คำถามคือเราไปตอบข่าวลือทำไม และ เมื่อถามว่า เมื่อมีข่าวออกมาแบบนี้ รู้สึกอย่างไรกับการทํางาน นายอนุทิน กล่าวว่า มันก็เป็นข่าวลือ รู้สึกไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ทำงานปกติ นายกรัฐมนตรีก็ยังสั่งงานปกติ ท่านก็เรียกมาประชุมให้เร่งรัดเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ ให้เบิกเร็วกว่านี้ คุยเรื่องที่เป็นบวกกับประเทศ เรื่องที่ใครฟังแล้วเกิดความสบายใจดีกว่า
จากนั้น นายอนุทิน ได้สอบถามผู้สื่อข่าวว่า นายกฯ ได้แถลงหลังการประชุม ครม.ว่าอย่างไร ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า ยังไม่มีการปรับ ครม. เพราะนายกฯระบุว่า ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง นายอนุทิน จึงเดินขึ้นไปตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมหันมาร่ายกลอนให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า
"ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง คนบ่ดูหนังสือยังสอบได้ คนดูหัวแทบพังยังสอบตกนา เพราะฉะนั้นไซร้ อย่าได้ดูมัน"
สำหรับบทกลอน "ใดๆ ในโลกนี้ล้วนอนิจจัง"มีต้นเค้ามาจากบทโคลงในวรรณคดีไทยเรื่อง "ลิลิตพระลอ" โดยมีรายละเอียดดังนี้
"ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา
ตามแต่บาปบุญแล้ ก่อเกื้อ รักษา"