"ภูมิธรรม" ย้ำอีก ไม่มีสัญญาณปรับครม. หลังมีกระแสข่าวหวนกลับคุม "กระทรวงพาณิชย์" ยัน ต้องฟังนายกฯ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เผย กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีชื่อนายภูมิธรรมกลับไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ตนโดนไปได้ทุกที่ ตราบใดที่เป็นการคาดคะเน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเรื่องนี้ และยังไม่มีการพูดคุยกันเลย อย่างที่บอกการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกฯจริงๆ และตนยังไม่เคยได้ยินเสียงบ่นจากนายกฯว่าไม่เอาตรงนั้น ได้ยินแต่ว่าอยากให้ร่วมมือกันให้ได้ ท่านได้บอกแล้วว่าท่านเป็นคนตรงไปตรงมาในการทำงาน ไม่ชอบให้มีการทำตรงนั้นตรงนี้ มีวาระขัดกันไปขัดกันมา ท่านไม่อยากเห็น ท่านอยากทำงาน เพราะฉะนั้นยังไม่เคยได้ยินเสียงจากท่านเลยว่าจะปรับ ซึ่งสถานการณ์จะปรับหรือไม่ปรับมีปัจจัยหลายอย่าง และคนที่จรดปากกาเซ็นคือนายกฯ สิ่งเหล่านี้ถ้าอยากจะรู้ทิศทางให้ท่านดูคำตอบจากนายกฯ ซึ่งหลังการประชุมคณะครม. เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ท่านก็ตอบชัดเจนว่ายังไม่คิด เพราะนายกฯเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา
เมื่อถามอีกว่ากรณีมีกระแสข่าวที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นห่วงเรื่องสินค้าราคาเกษตร จึงมีการเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหา ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยที่รู้สึกและสะท้อน นายกฯก็รับฟัง เพราะถือเป็นปัญหาการทำงานซึ่งเกิดได้ทุกเรื่องทุกอย่าง เราจะบริหารความพึงพอใจให้มากที่สุดไม่ได้ เพราะความพึงพอใจของคนไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่เราทำคือการบริหารความถูกต้อง และความเหมาะสมให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ในทางการเมืองต้องบริหารความไม่พอใจให้น้อยที่สุด ไม่ได้บริหารความพึงพอใจ เพราะความพึงพอใจและความต้องการของคนเท่าไหร่ก็ไม่พอ
เมื่อถามต่อว่ามองว่าจะมีการปรับครม.หลังผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้เป็นวิธีคิดแบบสูตรเดิม ที่ต้องรอให้เรื่องนั้นเรื่องนี้ผ่าน ซึ่งวันนี้เสียงรัฐบาลพออยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่าสูตรใหม่คืออะไรนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า สูตรใหม่ยังไม่ได้คิด แต่ตนคิดว่า อยู่ที่การมองของผู้นำว่าขณะนี้บรรยากาศการทำงานร่วมกันสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ หากไม่บรรลุเป้าหมายจากจุดไหน นายกฯก็คงพิจารณาว่าเกิดจากเงื่อนไขอะไร หากมุ่งหวังแล้วส่วนไหนที่ยังไม่สามารถทำได้ ไม่ใช่อยู่ๆก็จะปรับ นายกฯก็คงต้องบอกว่าตรงนั้นตรงนี้ต้องขันน็อต ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่นายกฯพิจารณา และยังพูดในหลักการเดิมคือให้ร่วมกันทำงาน และตั้งใจทำนโยบายให้บรรลุผลโดยเร็ว เพราะประชาชนมีความคาดหวัง