"สุดารัตน์" ประกาศ ดูแลชาวอีสาน ให้หายจนใน 3 ปี 

ชาวอุบลฯ นับหมื่นคน แห่เชียร์ "สุดารัตน์" นั่งนายกฯ ดูแลคนอีสาน มั่นใจ"หญิงหน่อย" ตัวจริงพร้อมทำงาน ไม่ใช่นอมีนีใคร ด้าน เจ้าตัว ประกาศเดินหน้า ดูแลชาวอีสาน ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้ยั่งยืนภายใน3ปี 

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 32 พร้อมด้วยสิทธิชัย โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และผู้สมัครส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี โดยช่วงเช้าที่สนามบิน มีพี่น้องประชาชนมารอรับแน่นขนัด ส่งเสียงเชียร์  อาทิ "นายกหน่อย" "คุณหญิงสุดารัตน์ นายกคนอีสาน" พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ เข้ามาทักทายสวมกอด และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างอบอุ่น

จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย 3 เวที ที่อำเภอนาจะหลวย อ.บุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 9 ของนางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ เบอร์ 10

โดยทั้ง 3 เวที ที่คุณหญิงสุดารัตน์  ได้รับการต้อนรับจากชาวอุบลราชธานีอย่างอบอุ่นมากเช่นกัน  ประชาชนแห่ฟังนโยบายแต่ละเวทีนับหมื่นคน พร้อมกับเสียงสะท้อนจากชาวอุบลฯที่มองว่า คุณหญิงสุดารัตน์เหมาะ จะเป็นนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทยในเวลานี้มากที่สุด เพราะเป็นคนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานและมีประสบการณ์ทำงานยากๆสำเร็จมาแล้ว ที่สำคัญ คุณหญิงสุดารัตน์ สามารถทำงานได้ทันทีไม่ใช่นอมีนี จึงไม่ต้องรอฟังคำสั่ง หรือคำสั่งการจาก ใครคนใดคนหนึ่ง และชื่นชอบนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ที่มุ่งยุติความขัดแย้ง การเมืองสองขั้ว ซึ่งสร้างความทุกข์ยาก แสนสาหัสให้ประชาชนมากว่า 17 ปี จนเกิดการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจึงขาดเสถียรภาพ ไม่สามารถดูแลประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ และการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งในภาคอีสาน มีปัญหาเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำมาโดยตลอด รวมถึงที่จังหวัดอุบลราชธานีด้วย

คุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเวที ประกาศดูแลพี่น้องชาวอุบลฯและพี่น้องคนอีสาน ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้ยั่งยืนภายใน 3 ปี พร้อมยกระดับราคาสินค้าเกษตร โดยจะรับซื้อและประกันราคาพืชเศรษฐกิจหลัก เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน โดยข้าวหอมมะลิ จะต้องไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท/ตัน ข้าวหอมจังหวัด 13,000 บาท/ตัน ข้าวเหนียว 14,000 บาท/ตัน  
ข้าวสารขาว 11,000 บาท/ตัน ส่วนราคาพืชผลอื่น มันสำปะหลัง 3 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 8 บาท/กก. ยางพารา 60 บาท/กก. ยางก้อนถ้วย 45 บาท/กก. ปาล์มน้ำมัน 5 บาท/กก. อ้อยโรงงาน 1,000 บาท/ตัน 

และจะมีการปรับโครงสร้างการผลิต บริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกพืชเกษตร (Zoning) โดยปรับระบบการใช้ที่ดินเพื่อผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับอุปสงค์  –  อุปทาน (Demand – Supply) เพื่อยกระดับราคา เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร  พร้อมพัฒนาแหล่งน้ำ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงการกักเก็บน้ำตามลำน้ำ ซึ่งจะมีโครงการ ขุดบ่อน้ำ 1 ล้านบ่อ  ขุดน้ำบาดาล 1 แสนบ่อ วางระบบผันน้ำ โขง-เลย-ชี-มูล แม่น้ำสายสำคัญอื่น และจาก สปป. ลาว มาเติม ในยามที่ขาดน้ำ รวมทั้งพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอและมีคุณภาพทุกหมู่บ้าน

นอกจากนี้ยังเห็นว่า จังหวัดอุบลราชธานี ยังเป็นพื้นที่ที่สามารถ เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะสามารถเพิ่มมูลค่าทางการค้าได้ไม่น้อยกว่า 3 เท่า โดยจะยกระดับจังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ Northeastern economic corridor 

สำหรับ Northeastern economic corridor  ตรงข้ามอุบลราชธานี จะเป็นแขวงจำปาศักดิ์ ซึ่งเป็นแขวงหนึ่งของประเทศลาว ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ ติดอุบลฯและกัมพูชา มีนคร ปากเซเป็นเมืองหลักของแขวง ถือเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการท่องเที่ยวของลาวตอนใต้ เป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีแม่น้ำโขงไหลผ่านกลาง ดังนั้น อุบลจึงเป็น corridor ที่เชื่อม 3 ประเทศ และขึ้นเหนือไปสู่จีนได้ ซึ่งจะเป็นสะพาน เชื่อมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวได้อีกมิติหนึ่ง

สำหรับผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอุบลราชธานีของพรรคไทยสร้างไทย ประกอบด้วย

เขต 1 นายอดุลย์ นิลเปรม เบอร์ 1 

เขต 4 นายอภิชาติ วรโชติวิวรรธน์  เบอร์ 2 

เขต 6 นายบุญธรรม ภาคโพธิ์ เบอร์ 1 

เขต 7 นายพิตติพัฒน์ นามอภัย เบอร์ 8 

เขต 8 นายเสกสรรค์ กอคูณ เบอร์ 9 

เขต 9 นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ เบอร์ 10 

เขต 11 นายสุริยา ขันอาสา เบอร์ 2

TAGS: #สุดารัตน์ #เลือกตั้ง2566 #เลือกตั้ง66 #ไทยสร้างไทย