“เอ้ สุชัชวีร์” ชูตั้ง “มหาวิทยาลัยอันดามัน” ให้เกิดจุดเปลี่ยนการศึกษาด้วยการ “สร้างคน” ปลุกคนกระบี่ เลือก “ประชาธิปัตย์” ยกจังหวัด ทั้งคนทั้งพรรค "มาดามเดียร์" ย้ำจุดยืนพรรคไม่เอากัญชาเสรี

นาย สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมงานปราศรัยเย็นวานนี้ (5 พ.ค.) ณ ลานปูดำ จ.กระบี่ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้าพรรค ขึ้นปราศรัยก่อนหน้า และผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ ทั้ง 3 เขต คือ เขต 1 นายธนวัช ภูเก้าล้วน (เคี่ยง) เบอร์ 3 เขต 2 นายสาคร เกี่ยวข้อง เบอร์ 5 และเขต 3 ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล (น้ำผึ้ง) เบอร์ 5 นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ตั้งแต่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และนายทวีเกียรติ ใจดี ร่วมปราศรัยอย่างคับคั่ง 

นาย สุชัชวีร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัย มีหน้าที่ “สร้างคนวิชาชีพ” ให้มีคุณภาพ และจำนวนมากพอ ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม สร้างเศรษฐกิจ เพื่อการแข่งขันของชาติ ดังนั้นจึงต้องมี "มหาวิทยาลัย" อย่างทั่วถึง ครอบคลุม  เท่าเทียม และเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ “สร้างคน” ของพรรคประชาธิปัตย์ 

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องใหญ่โต แต่ต้องอยู่กระจายให้ครบทุกภูมิภาค ไม่เช่นนั้น เด็กไทยในแต่ละพื้นที่ย่อมเสียโอกาสเข้าถึงการศึกษาระดับวิชาชีพ นอกจากประเทศเสียหาย พื้นที่ก็เสียโอกาส วันนี้จังหวัดฝั่งอันดามันยังไม่มีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนครบสาขาเลย ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นวิศวกร เป็นหมอ นักบัญชี หรือแม้แต่นักกฎหมาย ต้องไปเรียนไกลบ้าน ที่กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองต่างจังหวัด

นาย สุชัชวีร์ จึงขอคะแนนให้ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ “ยกจังหวัดกระบี่” เพื่อมาช่วยกันผลักดันให้จังหวัดมีมหาวิยาลัยเป็นของตัวเองได้ โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่มีรายได้จากเศรษฐกิจ-การเกษตร -อุตสาหกรรม สูงมากขนาดนี้ “มหาวิทยาลัยอันดามัน” จะต้องเกิดขึ้นเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ “เรียนปริญญาตรีฟรี ไม่มีค่าหน่วยกิต” ซึ่งจะเพิ่มจำนวนประชากรที่เรียนจบปริญญาตรี ขณะเรียนก็มีงานทำกับภาคธุรกิจ และภาคธุรกิจสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการจ้างงานไปลดหย่อนภาษีได้อีกทาง ดังนั้นการมีมหาวิทยาลัยกระบี่ที่มีสาขาครบวงจรจะเป็นแรงดึงดูดให้ลูกหลานเล่าเรียนในพื้นที่ เมื่อจบการศึกษาจะได้พัฒนาในจังหวัดตนเอง

นาย สุชัชวีร์ ปราศรัยในตอนท้ายว่า นอกจากตนมาขอคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่แล้ว ยังขอคะแนนสำหรับบัตรเลือกตั้งสีเขียวให้ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ซึ่งตนก็อยู่ในรายชื่อด้วย และมีความพร้อมเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้มีโอกาสเข้าไปผลักดันเรื่องการศึกษาอย่างที่ตั้งใจ ด้วยการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้

ด้าน น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยว่า การมากระบี่ของตนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งการได้เดินทางมาทุกครั้งรู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง ทำให้เห็นว่าคนกระบี่และคนใต้ไม่เคยทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปช่วยหาเสียงในหลายจังหวัดก็ได้รับความอบอุ่นจากคนใต้เช่นกัน จึงบอกได้เลยว่าไม่ว่าคนใต้อยู่ที่ใดก็ยังคงรักประชาธิปัตย์เหมือนเดิม ดังนั้นที่มีคนอื่นใส่ร้ายว่าคนใต้ทิ้งประชาธิปัตย์ คนใต้เปลี่ยนใจแล้ว ตนขอยืนยันว่าเขาโกหก 

ส่วนความกังวลเรื่องกัญชาเสรีนั้น ยืนยันจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะพรรคประชาธิปัตย์พูดแล้วต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เอาแต่พูด พูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ โดยไม่เคยคิดถึงอนาคตลูกหลาน แบบนี้ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ จึงขอให้พี่น้องชาวกระบี่มั่นใจได้ว่าทุกนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งต้นจากประชาชน โดยการทำโครงการ ฟัง-คิด-ทำ เพื่อรับฟังประชาชน คิดร่วมกับประชาชน และทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเองเหมือนบางพรรคที่มีนโยบายออกมาทำลายอนาคตลูกหลาน พร้อมกับตั้งคำถามว่าแบบนี้เขารักคนกระบี่ เขารักคนไทย หรือรักแต่เพียงผลประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง

“ชีวิตของเราจะดีขึ้นได้อย่างไร การเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราเลือกได้ ด้วยการเริ่มต้นจากการเลือก ส.ส. ที่ดี มีอุดมการณ์ ไม่ใช่ ส.ส.ที่มุ่งหาแต่ผลประโยชน์ อำนาจ และพวกพ้อง ดังนั้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ อย่าเลือก ส.ส.เพียงแค่เพราะเขาเอาเงินมาให้ มันไม่คุ้มค่ากับอนาคตของเราและลูกหลานที่ต้องเสี่ยงไปอีก 4 ปี อย่าเลือก ส.ส. เพียงแค่เขาบอกให้เลือก เพราะกลัวคนแดนไกลจะแลนด์สไลด์ แต่พูดได้เลยว่าแลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริง เราต้องอย่าเลือก ส.ส.เพียงเพราะกลัวอำนาจของรัฐ กลัวอำนาจท้องถิ่น ที่สำคัญเราต้องทำให้พวกที่คิดทรยศ ไม่เคยเห็นหัวประชาชน ต้องได้รู้สำนึกว่าอำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของประชาชนทุกคน” น.ส. วทันยา กล่าว