“ก้าวไกล” ปราศรัยสงขลาคนจัดเต็ม “พิธา” ถามทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำอะไรของมันวะ บอกเลือกสงบ แต่ทำไมกลายเป็นสลบ
วันที่ 7 พ.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยบนเวที คาราวานก้าวไกลปักธงสงขลา พร้อมแกนนำรวมทั้งผู้สมัคร ส.ส.สงขลาทั้ง 9 เขต ที่แยกสะพานดำ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยล้นหลาม หลายคนแม้ไม่มีที่นั่ง แต่ยอมยืนฟังปราศรัย ส่งเสียงเชียร์พรรคก้าวไกลและพิธา
นายรังสิมันต์ โรม ปราศรัยเริ่มต้นด้วยพุทธศาสนสุภาษิตว่า สัจจังเม อมตะวาจา แปลว่า คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย ซึ่งอยู่ในกำกับของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง “เป็นพรรคการเมืองที่เขาบอกว่า ส่งเสาไฟฟ้าก็ได้ที่นั่ง ส.ส. เขาบอกว่าพรรคการเมืองนี้ เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พรรคการเมืองนี้ไม่เคยสูญพันธุ์ แต่ดูไปดูมา เห็นพี่น้องมาขนาดนี้ สงสัยจะสูญพันธ์ุ” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งปี 62 พรรคการเมืองนี้ประกาศไว้อย่างชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ซึ่งภาษาบาลีนี้ แปลว่า คำสัจ แลไม่ตาย แต่ดูเหมือนว่าหลังลั่นวาจา ก็ดูเหมือนคนพูดจะตาย เพราะปรากฏว่าพรรคการเมืองนี้ มีส่วนสำคัญที่ทำให้พลเอกประยุทธ์ขึ้นเถลิงอำนาจ และทำให้พวกเราต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลที่เอาเปรียบประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จะมาประกาศลาออกอย่างไร ตนก็ไม่สนใจ ผลงานของพรรคการเมืองนี้ ทำให้เราต้องอยู่กับวงจรแบบนี้
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีจุดยืนที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ว่าไม่เอา 3 ป. ถามใครก็พูดแบบนี้ ถามกี่ครั้งก็ชัดเจน ไม่เคยลังเลใจ ไม่ต้องรอให้ประชาชนก่นด่าแล้วจึงมาแสดงจุดยืน เพราะเรารู้ว่าการสังฆกรรมกับ 3 ป. จะทำให้เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศตามที่ตั้งใจได้ เราจะปฏิรูปกองทัพได้อย่างไร ถ้ามี พล.อ.ประวิตร ในคณะรัฐมนตรี เราจะแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างไร หากมีรัฐมนตรี ‘มันคือแป้ง’ร่วม ครม. ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลถูกตำหนิ ถูกสาดโคลน ถึงขั้นพูดว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีประสบการณ์ แต่ลองดูว่าประเทศไทยวันนี้ ที่ผ่านมือผู้มีประสบการณ์มาตั้งนาน มันเป็นอย่างไรบ้าง
โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวว่า หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะโดนสาดโคลนใส่ร้ายป้ายสีอีกมาก และสิ่งที่ตนกังวลมากที่สุด คือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันเราอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ วันนี้มีการเลือกตั้งล่วงหน้า หลายหน่วยพบปัญหาจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ “คู่แข่งของพรรคก้าวไกลในวันนี้ อาจไม่ใช่พรรคการเมืองต่างๆ แต่คือ กกต. ดังนั้น สิ่งเดียวที่จะสู้กับกลโกงได้คือพลังของประชาชน การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ขอเชิญชวนมาทำให้เป็นวันสุดท้ายของยุคลุง เพื่อเริ่มต้นใหม่ด้วยยุคเรา เราคือประชาชน ที่มีพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี” นายรังสิมันต์กล่าว
นายพิธา ขึ้นเวทีปิดท้ายกล่าวว่า “สงขลาจ๋า พิธามาแล้ว แหลงใต้ไม่ค่อยได้แต่อยากบอกว่าคิดถึงอย่างแรงเลยนิ” พร้อมหันไปถามนายรังสิมันต์ว่า สงขลา หรือ ส้มขลา ก่อนกองเชียร์ตะโกนว่าล้มขลา
นายพิธา กล่าวว่า ตนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขอประกาศว่าสงขลาแตกแล้ว คนที่เขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าพรรคก้าวไกลผูกพันกับพี่น้องชาวใต้ขนาดไหน ก่อนหยอดว่า “พ่อรักส้มและพ่อก็รักฟ้า”
นายพิธา กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมามีคำสัญญาอะไรที่หาดใหญ่บ้าง บอกให้เลือกสงบ มันสงบหรือสลบกันแน่ ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องตลก ที่ผ่านมาเคยมีคนให้คำสัญญากับชาวหาดใหญ่ว่า จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าเศรษฐกิจเติบโต แต่ผ่านมา 8 ปีเห็นแล้วว่าไม่เป็นอย่างนั้น “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำเพื่ออะไรของมันวะ”
วันนี้ตนในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จึงมี ปฏิญญาหาดใหญ่ เป็นคำสัญญาที่ส่งสัญญาณไปยังภาคใต้ทุกจังหวัด ว่าเมื่อก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะปฏิรูปที่ดิน เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม จะทำการเมืองใหม่ที่ไม่มีรัฐมนตรีหน้าไหนที่คุมเรื่องที่ดินที่พอรู้ว่าพื้นที่ไหนจะทำอุตสาหกรรมอะไร ก็ให้ญาติตัวเองไปซื้อที่ดินเปลี่ยนเป็นโฉนด
นายพิธา กล่าวต่อว่า เราสัญญาว่าจะทำให้เศรษฐกิจของสงขลา ที่ปัจจุบันเป็นเศรษฐกิจทรัพยากร ทั้งเรื่องการค้าชายแดน การท่องเที่ยว เปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้วยสมองและสองมือของพี่น้องหาดใหญ่ และเราจะทำให้การคมนาคมระหว่างจังหวัดรวมถึงการคมนาคมภายในสงขลา เป็นไปโดยไร้รอยต่อ นี่คือคำสัญญาภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ชื่อว่า การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต