"ชวน หลีกภัย" ลั่นให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรักษาหลักบ้านเมือง อย่าให้อิทธิพลของเงิน เปลี่ยนอุดมการณ์ประชาธิปไตย
นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งคลิปร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง” โดยระบุเหตุผลว่าตนติดคำมั่นสัญญาที่ต้องไปขึ้นเวทีปราศรัยสุดท้ายของจังหวัดพัทลุง และพรุ่งนี้จะตระเวนพบพี่น้องประชาชนในจังหวัดตรังทั้งจังหวัด
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ตนมีความตั้งใจเดินทางพบพี่น้องประชาชนทั้ง 77 จังหวัด แต่ทำได้เพียง 50 จังหวัด เพราะจำเป็นต้องมาภาคใต้เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งที่มีพฤติกรรมใช้เงินรุนแรงขึ้น แม้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาแล้ว 90 ปี และมีความก้าวหน้าไปมาก แต่มีสิ่งแปลกปลอมอันหนึ่งที่ติดตามมาก็คือปัญหาการเมืองทุจริต มีการซื้อเสียง มีการใช้วิธีการที่ไม่สอดคล้องกับวิถีประชาธิปไตยในอุดมคติได้ดังที่มีความตั้งใจ แม้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับจะมีเจตนารมณ์ให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็ตาม
จากสาเหตุนี้ ทำให้ตนจำเป็นต้องกลับมาอยู่ในพื้นที่เพื่อรณรงค์ให้กับพี่น้องประชาชนว่า เราต้องไม่ยอมให้อิทธิพลของเงิน เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ประชาธิปไตยของเรา พร้อมกับตั้งข้อสังเกตใน 2 ประเด็น
ประการแรก ขอให้พวกเราชาวไทยทั่วประเทศที่รักประชาธิปไตยได้ร่วมกัน ป้องกัน และไม่ยอมรับการซื้อเสียง ไม่ว่าจะมาจากผู้มีอำนาจในระดับไหนก็ตาม หรือจากพรรคการเมืองไหนก็ตามรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วย แต่พรรคประชาธิปัตย์นั้น ถือหลักว่า “ไม่โกง ไม่กิน ไม่สิ้นชาติ”
ประการที่ 2 ด้วยการแก่งแย่งเพื่อชิงอำนาจในบ้านเมืองขณะนี้ ทำให้พรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ไม่สนใจเรื่องชอบธรรม ที่พูดกันว่า “เราเลือกผู้แทนอย่างไร เราจะได้ผู้แทนอย่างนั้น ถ้าเราได้ผู้แทนซื้อเสียง โกงเลือกตั้ง เราก็จะได้รัฐบาลซื้อเสียง โกงเลือกตั้ง” เพราะระบบของเรานั้น เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นเมื่อเสียงข้างมากผสมไปด้วยกลุ่มการเมืองที่มาจากระบบใช้เงิน จึงต้องมาหาผลประโยชน์ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และผลเสียหายก็จะเกิดกับพี่น้องประชาชน
“นี่เป็นโรคระบาดอันหนึ่งที่ทำให้ความเจริญก้าวหน้าของไทยไม่ถึงที่สุด ถ้าคะแนนเต็มสิบ เราไม่มีวันได้เต็มสิบ เราจะได้แค่ 7 แค่ 8 เพราะการทุจริตเป็นอุปสรรคทำลายความเจริญก้าวหน้าของเรา ผมต้องกราบเรียนในโอกาสท้ายๆ ก่อนวันเลือกตั้งว่า ขอได้โปรดสนับสนุนพรรคการเมืองที่ดำรงมาด้วยความชอบธรรม 77 ปี ย่างเข้าปีที่ 78 ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง มีส่วนดีมากกว่า พรรคนี้ก็อยู่ไม่ได้ เพราะพรรคที่ตั้งพร้อมๆ กันมาก็มีอันเป็นไปทั้งหมด ดังนั้นขอให้พี่น้องถือว่าบ้านเมืองเราอยู่ได้ด้วยการรักษาหลัก พรรคที่รักษาหลักบ้านเมืองอย่างแท้จริงคือพรรคประชาธิปัตย์” อดีตประธานรัฐสภา กล่าว
พร้อมกับกล่าวเสริมว่า หลักของบ้านเมืองนั้น ประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักธรรมาภิบาล หลักความชอบธรรม เหล่านี้ล้วนเป็นกลไก เครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยพัฒนาไปข้างหน้าเป็นอย่างดี และเมื่อเหลียวมองไปรอบๆ ตนก็เห็นว่ามีพรรคเฉพาะกิจบางพรรค รวมทั้งพรรคการเมืองที่ทำธุรกิจการเมืองอยู่ในประเทศของเรา หากเราได้พรรคเหล่านั้นมาบริหารบ้านเมือง แน่นอนว่าความพร้อมในการพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมายตามอุดมการณ์ และปณิธานของพี่น้องคนไทยที่อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปข้างหน้าจะไม่เป็นผลเกิดขึ้นได้จริง
นายชวนย้ำกับพี่น้องประชาชนที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. นี้ว่า จากการลงพื้นที่ก็พบว่าพี่น้องประชาชนยังมีความสับสน เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเป็นการเลือกตั้งแบบใช้บัตรใบเดียว แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 ทำให้มีบัตรลงคะแนน 2 ใบ คือบัตรสีเขียว เลือก ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 และบัตรสีม่วง เลือก ส.ส. เขต ที่พรรคได้ส่งลงสมัครทั่วประเทศ
“ผมเป็นผู้หนึ่งที่สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ เบอร์ 26 จึงขอให้พี่น้องได้ช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองที่ยืนหยัดอยู่บนความซื่อสัตย์ สุจริต และอยู่คู่กับหลักการ ความชอบธรรมของบ้านเมืองด้วย ดังนั้นนอกจากการเลือก ส.ส. เขตของพรรคในบัตรสีม่วงแล้ว ก็ต้องเลือก เบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์ในบัตรสีเขียวด้วย” นายชวน กล่าว