ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าใช้สิทธิเลือกตั้ง วัดสามัคคีธรรม เขตวังทองหลาง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านจราจร ขณะที่การจับกุมซื้อเสียง 8 คดี ทำลายป้ายหาเสียง 200 คดี
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เขตเลือกตั้ง 5 หน่วยเลือกตั้งที่ 10 โรงเรียนวัดสามัคคีธรรม แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร พร้อมกับเปิดเผยว่า รู้สึกดีที่ได้เข้ามาใช้สิทธิ์ในฐานะพลเมืองไทย โดยการตั้งตั้งวันนี้มีกำลังตำรวจ กว่า 150,000 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศ แต่ยังคงมีความเป็นห่วงด้านการจราจรที่ติดขัดสะสมในหลายพื้นที่ เนื่องจากมีผู้ออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครได้เน้นย้ำให้ทางตำรวจนครบาลตรึงกำลังดูแลและบริหารจัดการด้านจราจรรอบหน่วยเลือกตั้งตลอดทั้งวัน จนเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหน่วยเลือกตั้งที่มีผู้ใช้สิทธิจำนวนมาก ตั้งแต่ 5,000 คน ขึ้นไป จำนวน 74 แห่ง และ ระดับ 10,000 คนขึ้นไปจำนวน 5 แห่ง โดยประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลการจราจรติดขัดได้ที่ ศูนย์การจราจรของตำรวจนครบาล ผ่านหมายเลขสายด่วน 1197 , 1599 หรือ 191 ทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน ยังได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศเตรียมการรองรับสภาพอากาศที่อาจมีฝนตกลงมาทั่วประเทศว และฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ทั้งเรื่องการถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว หรือการใส่เสื้อโลโก้พรรคเข้าข่ายการโฆษณา
ส่วนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เฉพาะคืนวานนี้ (13 พ.ค.) มีรายงานการกระทำผิด จำนวน 2 คดี และช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีรายงานเหตุเกี่ยวกับการซื้อสิทธิขายเสียงจำนวน 8 คดี รวมความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งประมาณ 49 เหตุ และมีรายงานเกี่ยวกับการทำลายป้ายหาเสียงประมาณ 200 คดี
ขณะที่เขตเลือกตั้งที่ 5 โรงเรียนวัดสามัคคีธรรม แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยหน่วยเลือกตั้งที่ 8, 9,10,11 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิทั้งหมด 3,009 คน ซึ่งปีนี้เจ้าหน้าที่ได้แยกหน่วยเลือกตั้งที่ 12, 13 ไปที่บริเวณลานจอดรถวัดสามัคคีธรรม เพื่อลดความแออัดลง โดยภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยของหีบเลือกตั้ง และเปิดให้ประชาชนเข้าใช้สิทธิในเวลา 08:00 น. เป็นต้นมา มีประชาชนทยอยเข้าใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาการเรื่องการตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตัวเองต้องใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งใด จึงต้องเข้าแถวรอยาวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ อีกทั้งยังไม่มีการกั้นแถวบอกทางให้ชัดเจน ทำให้ประชาชนค่อนข้างสับสนในการเข้าใช้สิทธิในคูหาต่างๆ