“วิษณุ” ยกบทเรียน “ยุคยิ่งลักษณ์” เตือนรัฐบาลใหม่ปัจจัยเสี่ยงมีอยู่ พร้อมรับมือเหตุประท้วง-ต่อต้าน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 42 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ เขตเลือกตั้ง 7 กรุงเทพมหานคร (เต็นท์ใต้ทางด่วน ซอยประชาชื่น 30) โดยมีรายชื่ออยู่ในอันดับที่ 213 จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ 781 คน ซึ่งหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวมีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่อง
นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งในครั้งนี้ ที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนกันอย่างคึกคักว่า ครั้งนี้จะคึกคักหรือไม่ ไม่รู้ แต่ก่อนหน้านี้ก็ต้องบอกว่าคึกคัก เพราะว่างเว้นการเลือกตั้งมา 4 ปี แต่ใน 4 ปีนั้นเรามีการเลือกตั้งท้องถิ่น คือเลือกตั้งผู้ว่า กทม. รวมถึงในต่างจังหวัด ก็มีการเลือกตั้ง อบจ. และ อบต. เพราะฉะนั้นประชาชนก็จะเริ่มคุ้นกับการเลือกตั้ง และรู้สึกว่า สิทธิการเลือกตั้งที่หายไปนานนั้น กลับคืนมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไป นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ก็เปลี่ยนประเทศทั้งนั้น เพราะต้องเปลี่ยนรัฐบาล แม้จะเป็นรัฐบาลเดิมก็ต้องเปลี่ยนนโยบาย เปลี่ยนทีม เปลี่ยนวิธีทำงาน ซึ่งก็ต้องปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่เรียกว่าปฏิรูปหรอก
“การเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นใครหรือแบบไหนก็ตาม จะไม่มีใครเอาของเดิมมาทำซ้ำอีก เนื่องจากใช้สติสัมปชัญญะก็รู้แล้วว่าของเดิมมีอะไรที่ผิดพลาด และมี อะไรที่ต้องทำให้เข้ากับยุคสมัยที่ใหม่ขึ้น และอย่าลืมว่า 4 ปีที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตั้ง 3 ปี และยังมีสงครามระหว่างประเทศอีก เพราะฉะนั้นอะไรหลายๆ อย่างที่ทำไม่ได้ เมื่อเลือกตั้งแล้ว สถานการณ์ต่างๆ เหล่านั้นเบาลงแล้ว ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า ที่ว่าประเทศจะเปลี่ยนแปลง คือเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในทางเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ก็คงจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ตนยังเป็นห่วงว่าจะเกิดกรณีความไม่สงบเรียบร้อย มีการต่อต้าน การค้าน มีการแบ่งกลุ่มเป็นฝักฝ่าย ถ้ายังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ก็จะฉุดนโยบายและวิธีการในการแก้ปัญหา ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม ซึ่งรัฐบาลที่เข้ามาก็ต้องเตรียมรับมือตรงนี้ด้วย เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีอยู่เสมอ
“อย่าลืมว่าสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามา เราก็รู้ว่าเข้ามาด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้น และคิดว่าจะสามารถนำพาประเทศไปได้ แต่แล้วก็ไม่สามารถนำพาไปได้ เพราะมีปัจจัยเรื่องการประท้วง คัดค้าน ต่อต้าน ซึ่งการต่อต้านคัดค้าน จะทำให้ฉุดทุกสิ่งทุกอย่างไปได้” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า จากนี้จนถึงเวลาปิดหีบในเวลา 17.00 น. จะเชิญชวนประชาชนออกมาเลือกตั้งอย่างไร เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนช่วงบ่ายอาจมีฝนตก นายวิษณุ กล่าวว่า ตนก็ตกใจเหมือนกัน เพราะได้ยินว่ามีพายุโซนร้อนจะเข้ามา แต่เช้านี้เห็นอากาศก็ดูสดใสแจ่มแจ้งดี ตนจึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
“เมื่อเวลาที่มีการยุบสภา ในพระราชกฤษฎีกาเขาใช้คำว่า สมควรคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน ดังนั้นเมื่อเขาคืนสิทธิมาให้แล้ว เราก็ควรออกมาใช้สิทธิ ใช้อำนาจที่เป็นของเรา ขอให้ทุกคนออกมาทำหน้าที่ของตนเอง เพราะมันถือเป็นหน้าที่ของเราด้วย” นายวิษณุ กล่าว