'เศรษฐา' ยินดีกับ 'ก้าวไกล' เชื่อไม่พลิกขั้วฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาล วอน ส.ว.ฟังเสียงประชาชน

วันที่ 15 พ.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 โดยระบุว่า ต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลมาที่หนึ่ง ก็ต้องดีใจด้วย ถือเป็นความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง เมื่อถามว่าแนวโน้มที่พรรคเพื่อไทย จะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลมีมากน้อยแค่ไหน

นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้กรรมการบริหารเป็นคนตัดสิน แต่เรามาด้วยกันแล้วเป็นฝ่ายค้านด้วยกันแล้วก็คงเป็นแนวทางที่ถูกต้องและตนคิดว่าเป็นความต้องการของประชาชน เมื่อถามย้ำว่าจะไม่มีการพลิกขั้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามกติมันชัดเจนอยู่แล้วฝากประชาธิปไตยชัดเจนอยู่แล้วที่ทำงานร่วมกันมา เมื่อถามอีกว่าจะมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ที่ทำให้สถานการณ์พลิกไปจนสองพรรคไม่ได้จับมือกัน นายเศษฐา กล่าวว่า ตนว่าไม่น่าพลิกประชาชนพูดแล้ว ลงคะแนนเสียงแล้ว และชัดเจนทั้งสองพรรคเป็นฝ่ายประชาธิปไตยร่วมกันมาและพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายชนะ 

เมื่อถามว่าท่าทีที่ชัดเจนเช่นนี้หากกรรมการบริหารพรรคไม่ได้มีมติออกมาเช่นนี้จะยอมรับในมติของกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมไม่ได้เป็นกรรมการบริหาร เป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่ส่วนตัวผมชัดเจน และผมพูดหลายเวทีแล้วว่าฝ่ายไหนรวมกันแล้วเกินกึ่งหนึ่งของ 500 เสียง ถือเป็นชัยชนะของประชาชน และส.ว.เองก็น่าที่จะโหวตตามความต้องการของประชาชน”  อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการโทรศัพท์พูดคุยหรือมีดีลลับใดๆกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และส่วนตัวไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของนายพิธาด้วย

เมื่อถามว่าถึงตอนนี้ยังไม่ได้ถอดใจจากการเมืองใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนก้าวเข้ามาจากฝ่ายธุรกิจมาฝ่ายการเมืองก็อยากช่วยประเทศชาติ ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นนายกฯ เป็นรัฐมนตรี หรือส.ส. มีหลายบทบาท ที่สามารถสู่ต่อไปได้ วันนี้ก็ตื่น 7 โมงเช้าเข้าพรรคทันที ตนยอมรับกติกาอยู่แล้ว