นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ประเมิน "พิธา" อาจชวดหลุดเก้าอี้นายก ส่องเพื่อไทยเดินเกมขึ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ตอนนี้ยังไม่เห็นความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร และการที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะได้เป็นนายก และตั้งรัฐบาลร่วม ยังไม่เป็นรูปธรรม
ปัญหาสำคัญของนายพิธา ที่จะเป็นนายก คือ ต้องหาเสียง สว. สนับสนุนให้มากพอซึ่งถือเป็นความยาก เพราะ สว.มีเงื่อนไขว่าจะยกมือให้คนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นคนที่ รักชาติ ศาสนา สถาบัน ไม่ยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งอาจเป็นส่วนสำคัญที่ สว. ไม่ยกมือให้นายพิธา
ดร.นณริฏ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลจะเป็นนายกและเป็นรัฐบาลได้ มีทางออกจากพรรครวมตอนนี้ที่มี 310 เสียง คือการดึงพรรคภูมิใจไทยที่มี 70 เสียง เข้าร่วม เพื่อให้มีเสียงเกิน 375 เสียง ทำให้ไม่ต้องพึ่งเสียง สว. แต่การทำเช่นนี้ จะทำให้พรรคก้าวไกลสละอุดมการณ์ไปมาก คือ อาจต้องยกกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขให้กับพรรคภูมิใจไทย
"รัฐบาลร่วม 310 เสียง การแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรีก็แทบไม่ลงตัวไม่พออยู่แล้ว หากต้องเป็นรัฐบาล 375 คน จะทำให้พรรคก้าวไกลถอยไปไกลมาก พรรคร่วมจะเอาเก้าอี้รัฐมนตรีไปหมด ทำให้พรรคก้าวไกลไม่สามารถทำนโยบายต่างๆ ที่หาเสียงไว้กว่า 300 นโยบาย เพราะการทำดังกล่าวต้องคุมกระทรวงแทบทุกกระทรวง" ดร.นณริฏ กล่าว
ดร.นณริฏ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ก็อาจทำให้พรรคเพื่อไทยที่ได้คะแนนเลือกตั้งสูงเป็นอันดับ 2 มีความชอบธรรมที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไปจับมือกับพรรคตรงข้ามปล่อยให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งการเมืองตอนนี้ยังเป็นไปได้หมด ยังมีความไม่แน่นอนสูง