"สุชาติ" ซัด "ก้าวไกล"เด็กงอแงกินขนม ไล่ไปหาวิธีหาคะแนนเสียงเอง

"สุชาติ​" ยันไม่หนุน "พิธา" นายกฯ ชี้ นโยบายไม่ตรงกัน ซัดเหมือนเด็กงอแงกินขนม มี 14 ล้านเสียง ยังไม่ถึงครึ่งผู้มีสิทธิ ไล่ไปหาวิธีหาคะแนนเสียงเอง​ ชี้​ใช้โซเชียล กดดัน ส.ส.​- ส.ว.​ไม่ใช่การเมือง​

นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน​ ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงจุดยืนของพรรค ที่นายพิธ​า​ ลิ้มเจริญรัตน์​ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ ส.ส. โหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี ผ่าทางตันเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ว่าตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค​ รทสช.​ ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลที่ต้องไปคุยกันเอง ​ขอให้ใจเย็นๆ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่า เมื่อรับรอง ส.ส. แล้วจะได้จำนวนเท่าใด พร้อมยังกล่าวว่าตนไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคจึงตอบแทนไม่ได้ แต่ส่วนตัวไม่ได้มีนโยบายหรือความคิดตรงกับพรรคก้าวไกล ตนจะไปอยู่กับเขาได้อย่างไร เขาได้คะแนน 30% ของผู้มาใช้สิทธิ ทั้งหมด 14 ล้านเสียง ได้ไม่ถึงครึ่ง

ส่วนที่มากดดันให้ ส.ว.ต้องเคารพเสียงประชาชน นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องเป็นกระจกเงาสะท้อนกลับไปบ้าง เหมือนเด็กงอแงกินขนม เรียกกินอมยิ้มอย่างเดียว มันต้องดูเหตุและผล ผู้ใหญ่หลายพรรคก็ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว แต่ละพรรคมีจุดยืนมีนโยบายพรรคของตนเอง เขาจะไปแหกข้อบังคับพรรคเขาอย่างไร ก่อนจะย้ำว่าแต่ละพรรคมีนโยบายและจุดยืนเป็นของตัวเองที่ไปหาเสียง แม้ประชาชนจะเลือกเขามา 1-2 ล้านเสียง ก็มาเพราะนโยบายนี้ ถ้าไปช่วยคนที่นโยบายไม่เหมือนกันแล้วจะอยู่กันอย่างไร

เมื่อถามย้ำว่าการที่ ส.ส.จะไม่โหวตให้ ไม่ใช่การไม่เคารพเสียงจากประชาชน ใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า อย่าหลงกลเขาต้องให้ข่าวความจริงสะท้อนกระจกให้เขาฟัง อย่าให้เขามองว่า​ เอาตรงนั้นตรงนี้ออกมาช่วย เอาตรงนั้นจะออกมากดดันคุณมีแค่กี่เปอร์เซ็นต์ มี 14 ล้านเสียง คุณก็ต้องไปจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ มันเป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำ​

ส่วนที่เอากระแสสังคมมากดดัน ส.ส. และ ส.ว จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายสุชาติ ย้ำว่าต้องให้สื่อมวลชนพูดความจริงกับประชาชน ว่าเขามี 14 ล้านเสียง เขาไม่ได้มี 30 ล้านเสียง ถ้าเขาจำเป็นต้องใช้เสียงคนอื่น แต่คนอื่นไม่มีนโยบายตรงกับเขาแล้วจะไปกันอย่างไร​ เช่น นโยบายเขาไม่เอาลุง​ แต่ผมมีลุง​ แล้วจะไปอย่างไร​ ผมขอถาม​ เพราะคนที่เขาเลือกผมมา​ ก็เพราะไม่เอาพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้อะไรที่คนไทยรับไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่าอย่างไรก็รวมกันไม่ได้กับพรรคก้าวไกลแน่นอนใช่หรือไม่ นายสุชาติ​ กล่าวว่าการเมืองจะมองเป็นของเล่นไม่ได้ การเมืองคือประเทศชาติบ้านเมือง การเมืองคือพี่น้องประชาชน การเมืองคือความยั่งยืนของลูกหลานเราในอนาคต เราจะมองการเมืองเป็นของเล่นแค่อารมณ์ชั่ววูบ เหมือนไฟไหม้ฟางหรือ มันไม่ใช่นะครับ เราต้องมีอุดมการณ์ที่เข้มแข็งและชัดเจน ไม่ใช่อุดมการณ์ที่จะไปช่วยเขา แล้วมันเกี่ยวอะไร มันไม่เกี่ยวกัน ส่วนตัวมีเอกสิทธิ์ ส.ส. มีเอกสิทธิ์ทุกคน


เมื่อถามว่าได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ หากพรรคลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะมีความวุ่นวายตามมา นายสุชาติ​ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรคลำดับที่ 1 จะต้องไปคิดเอง จริงๆ แล้วถ้าเขาได้เกิน 250 เสียง ก็ได้ไป แต่ได้ 151 เสียง ก็ต้องไปขอใคร เขาว่าใครไว้แล้วใครจะไปยอม แต่ละคนก็มีแฟนคลับ

ส่วนถ้าพรรคไกลไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ แล้วพรรคอื่นมาชวนไปร่วมรัฐบาล นายสุชาติ กล่าวว่าตนไม่สามารถตอบแทนพรรคได้ และเมื่อถามย้ำว่าหากพรรคลำดับที่ 2 จัดตั้งรัฐบาลแล้วมาชวนจะโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรคลำดับที่ 2 หรือไม่​ นายสุชาติย้อนถามกลับว่า ต้องถามที่จุดยืนของผมก่อน ว่าคืออะไร ผมไม่เอาพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว​ แต่ถ้าไม่มีนโยบายที่ไปแตะต้องสิ่งที่คนไทยนั้นหวงแหนก็พอแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่าแสดงว่าพร้อมเปิดช่องให้กับพรรคอื่นยกเว้นพรรคก้าวไกล ใช่หรือไม่ นายสุชาติ​ กล่าวว่า​ ต้องยอมรับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการแช่แข็งทางการเมือง เรามองว่าเป็นการแช่แข็งหรือเปล่า​ ตรงนี้ผมคิดเองนะ แต่ถ้าพรรคก้าวไกลเรียกออกมาช่วยเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้​ คุณด่าเขาทุกวันแล้วเขาจะไปอยู่กับคุณได้อย่างไร และต้องกลับไปถามชาวบ้าน เพราะชาวบ้านเรียกเรามา ผมเองก็ต้องกลับไปถามประชาชน

ส่วนพรรคจะโหวตนายกรัฐมนตรีไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่าเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว แต่ขอย้ำว่าต้องกลับไปถามประชาชน

นายสุชาติ​ ยังย้ำด้วยว่า สื่อมวลชนต้องช่วยกัน อย่าไปหลงกลเขา​ว่ามี 14 ล้านเสียง แล้วเป็นรัฐบาล เขามีเสียงถึงกึ่งหนึ่งหรือไม่ และต้องถามกลับว่า คุณจะรวมเสียงอย่างไรต้องไปหากันเอง แต่ถ้าจะมากดดัน ส.ส.​ เรียกร้อง ส.ส.พรรคต่างๆ โหวตให้เขาผ่าน ตนว่ามันไม่ใช่แล้วแบบนี้ไม่ใช่การเมือง

TAGS: #เลือกตั้ง66 #รัฐบาลก้าวไกล #สุชาติ