เปิดโผเจรจาตั้งรัฐบาล “พิธา” นายกฯ ขอควบ รมว.ต่างประเทศ อีกตำแหน่ง ขณะที่พรรคก้าวไกลยึดเก้าอี้กระทรวงหลักยกแผง ล่าสุดจองพลังงาน อ้างทำตามนโยบายหาเสียง ด้านเพื่อไทย โอดโดนฮุบกระทรวงเกรดเอหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เบื้องต้นยังอยู่ในขั้นเจรจาหลักการการทำงานในกรอบใหญ่ และการเห็นชอบใน MOU ร่วมกันที่จะมีการแถลงวันที่ 22 พ.ค. ในส่วนของก้าอี้รัฐมนตรี แกนนำพรรคก้าวไกลได้แจ้งยังแกนนำพรรคเพื่อไทยถึงหลักการเบื้องต้นที่จะขอดูแลกระทรวงด้านความมั่นคง การปฏิรูปกองทัพ การกระจายอำนาจ และ ดูแลทรัพยากรมนุษย์ ทั้งหมดเป็นไปนโยบายตามพรรคได้หาเสียงไว้ นอกจากนี้ล่าสุดได้แจ้งว่าต้องการเก้าอี้รมว.ต่างประเทศอีกตำแหน่ง โดยมีแนวโน้มจะให้นายพิธา ควบเก้าอี้นายกฯและรมว.ต่างประเทศแทน รมว.กลาโหมที่มีการออกข่าวก่อนหน้านี้ มีการระบุเหตุผลว่า มีความจำเป็นที่นายพิธา ต้องไปเดินทางไปแสดงบทบาทในเวทีต่างประเทศหลายครั้ง หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีทั้งหมด 35 เก้าอี้ ไม่รวมนายกรัฐมนตรี หากคำนวณตามจำนวนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล 314 เสียง อยู่ที่สัดส่วน 1 ต่อ 9 เบื้องต้นพรรคก้าวไกลจะได้ 17 เก้าอี้ พรรคเพื่อไทย 15-16 เก้าอี้ ที่เหลือจะเป็นพรรคเล็ก ประกอบด้วย พรรคประชาชาติของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา 1 เก้าอี้ พรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 1 เก้าอี้ และอีก 1 เก้าอี้ อาจให้กับพรรคเล็กๆ ซึ่งมีแนวโน้มที่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะเป็นตัวแทนพรรคเล็กได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วย 1 เก้าอี้ เนื่องจากมีความอาวุโส
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กระทรวงหลักที่พรรคก้าวไกลต้องการ ประกอบด้วยกระทรวงเกรดเอ 1.รมว.ต่างประเทศ 2.รมว.กลาโหม 3.รมว.มหาดไทย 4.รมว.คลัง 5.รมว.ศึกษาธิการ 6.รมว.พลังงาน 7.รมว.แรงงาน 8.รมว.ยุติธรรม 9.รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 10.รมว. อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 11.รมว.วัฒนธรรม ส่วนกระทรวงหลักด้านเศรษฐกิจ จะให้พรรคเพื่อไทยรับผิดชอบ ประกอบด้วย 1. รมว.พาณิชย์ 2.รมว.คมนาคม 3.รมว.เกษตร 4 . รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 5. รมว.ท่องเที่ยว 6.รมว.อุตสาหกรรม
ทั้งนี้ในการเจรจาเบื้องต้น พรรคก้าวไกล ยืนยันจะไม่ดำเนินนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย คือ การแจกเงินดิจิตัล 10,000 บาท เพราะเห็นว่า งบประมาณที่จะใช้สูงถึง 5 แสนล้านบาท ซึ่งควรนำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ด้านอื่นแทนที่พรรคก้าวไกลได้หาเสียงไว้ เช่น การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท ที่จะใช้งบประมาณจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงทรัพยากธรรมชาติ พรรคก้าวไกลได้แจ้งความประสงค์ว่า ต้องการด้วยเช่นกัน โดยระบุจะเข้าไปแก้ปัญหาเรื่อง PM2.5 นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงพลังงาน พรรคก้าวไกลได้แจ้งยัง พรรคเพื่อไทยว่าต้องดูแลรับผิดชอบด้วยเพื่อดำเนินนโยบายที่ประกาศไว้
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า การที่พรรคก้าวไกลประกาศจะเอากระทรวงหลักๆ ไว้หมดเพียงพรรคเดียว สร้างความไม่สบายใจให้พรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก เพราะเพื่อไทยมีจำนวนเสียงเป็นอันดับสอง ห่างจากพรรคอันดับหนึ่งเพียง 11 เสียง การต่อรองควรเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสสลับกันเลือกกระทรวงเพื่อทำตามนโยบายที่แต่ละพรรคหาเสียงไว้