แถลงMOUรัฐบาลก้าวไกลพรุ่งนี้ ไม่มีม.112

แถลงMOUรัฐบาลก้าวไกลพรุ่งนี้ ไม่มีม.112
เผยแถลงMOU พรุ่งนี้(22 พ.ค.)จะมีวาระร่วมของรัฐบาลเท่านั้น ส่วนที่ไม่มีก็จะเป็นวาระเฉพาะที่สัญญากับประชาชน  โดยแต่ละพรรคจะออกกฎหมาย ผ่านสภาและนโยบายผ่าน กระทรวงที่รับผิดชอบแทน

ความคืบหน้าในการลงนามข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกลล่าสุดนั้นมีรายงานว่า มีประมาณ กว่า 20 วาระ ส่วนใหญ่เป็นนโยบายทั่วไป และได้มีการปรับถ้อยคำใน MOU ให้เบาลง แต่จะไม่มีเรื่องการแก้กฎหมายประมวลอาญามาตรา112 แต่อย่างใด รวมถึงการนิรโทษกรรม ก็ไม่ได้มีการระบุชัดเจนเพียงแค่จะนิรโทษประเด็นที่เกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเมืองแต่ต้องผ่านกลไกรัฐสภา

ทั้งนี้วาระที่สำคัญในการปฏิรูปกองทัพ ก็จะเขียนกว้างๆว่าจะปฏิรูประบบราชการ ทหาร ตำรวจ โดยไม่รายละเอียดตามที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ ขณะที่วาระการยกเลิกพรก.ฉุกเฉินในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่ได้เขียนระบุไว้ รวมถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ก็เขียนเพียงให้มีการกระจายอำนาจ

ในขณะที่สมรสเท่าเทียม และสุราเท่าเทียมนั้นพรรคประชาชาติขอสงวนความไม่เห็นด้วย

อย่างไรก็ตามพรรคก้าวไกลได้ เผยแพร่ ข้อความผ่านเพจ Facebookเผยเรื่องการแถลง MOU ในวันที่ 22 พ.ค.สรุปว่า จะมีวาระร่วมของรัฐบาลเท่านั้น ส่วนที่ไม่มีก็จะเป็นวาระเฉพาะที่สัญญากับประชาชน  โดยแต่ละพรรคจะออกกฎหมาย ผ่านสภาและนโยบายผ่าน กระทรวงที่รับผิดชอบแทน

สำหรับรายละเอียดที่ พรรคก้าวไกลได้ เผยแพร่ ข้อความผ่านเพจ Facebook ตอนหนึ่งระบุว่า พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ว่าการจัดตั้งและร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคการเมืองควรต้องเอาวาระหรือนโยบายเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่กระทรวงหรือตำแหน่งเป็นตัวตั้ง

ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับหนึ่ง เราได้เดินหน้าเพื่อเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคการเมือง (รวมทั้งหมด 313 คน) 

ในเมื่อรัฐบาลก้าวไกลเป็นรัฐบาลผสมที่ประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมือง เราจำเป็นต้องเคารพความเห็นที่แตกต่างเชิงนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลอื่น
ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความชัดเจนว่ารัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกลจะผลักดันวาระอะไรบ้าง เราแบ่งวาระออกเป็น 2 ส่วน

1. วาระ “ร่วม” ของทุกพรรคร่วมรัฐบาล (ระบุใน MOU)

วาระและนโยบายที่ทุกพรรคเห็นตรงกัน พร้อมผลักดันร่วมกันผ่านกลไกบริหารและนิติบัญญัติ และพร้อมรับผิดชอบร่วมกัน

2. วาระ “เฉพาะ” ของแต่ละพรรคการเมือง (ไม่ถูกระบุใน MOU)

วาระและนโยบายที่แต่ละพรรคขับเคลื่อนเอง เพิ่มเติมจาก (แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับ) นโยบายใน MOU ผ่าน 2 กลไกหลัก

2.1. ผลักดันผ่านกลไกบริหารของกระทรวงที่พรรคมีตัวแทนเป็นรัฐมนตรี

- เช่น (หากพรรคก้าวไกลบริหารกระทรวงศึกษาธิการ) นโยบายการศึกษานอกเหนือจากใน MOU ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

2.2. ผลักดันผ่านกลไกนิติบัญญัติของระบบรัฐสภาโดยผู้แทนราษฎรของพรรค

- เช่น กฎหมาย 45 ฉบับที่พรรคพร้อมเสนอสู่สภาทันทีที่สภาเปิด ไม่ว่าจะปรากฎอยู่ใน MOU หรือไม่

พรรคก้าวไกลเรายืนยันว่าจะพยายามเต็มที่ในการผลักดัน 300 นโยบายก้าวไกลที่เราสื่อสารกับประชาชนก่อนเลือกตั้งให้สำเร็จ โดยการพยายามบรรจุนโยบายเข้าไปใน วาระ “ร่วม” หรือ MOU ให้ได้เยอะที่สุด ในขณะที่นโยบายอะไรที่ไม่ถูกบรรจุใน MOU เราจะผลักดันต่อผ่านกระทรวงที่พรรคก้าวไกลบริหารและผ่านจำนวนผู้แทนราษฎร 152 คน ที่เรามีในสภาผู้แทนราษฎร

แม้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลลักษณะนี้อาจเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมไทย แต่พรรคก้าวไกลเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวที่อ้างอิงจากหลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั่วโลก จะเป็นกระบวนการที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ในประเทศ ที่ยกระดับความมั่นใจของประชาชนต่อระบบการเมืองไทย และเพิ่มความชัดเจนกับประชาชนว่าในบริบทของรัฐบาลผสมที่ประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยนโยบายที่ทั้งมีจุดร่วมและจุดต่างกัน รัฐบาลผสมนี้จะร่วมผลักดันและรับผิดชอบวาระอะไรเพื่อประชาชน

TAGS: #รัฐบาลก้าวไกล #MOU #8พรรคร่วม