"หมอพรทิพย์" ลั่นใช้ม็อบกดดัน ส.ว.ไม่ฉลาด ยิ่งทำให้การขอเสียงสนับสนุนไม่สำเร็จ เงื่อนไขเดียวสำหรับตัวเองอยู่ที่ 112

วันที่ 22 พ.ค. 66 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงท่าทีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า การจะได้เสียงสนับสนุน เป็นนายกรัฐมนตรี  ส่วนตัวมองว่า ส.ว. เป็นด่านสุดท้าย แต่เรื่องใหญ่จริงๆ คือการเจรจาระหว่างพรรคการเมือง

สำหรับ ส.ว.ปัญหาที่ส่วนใหญ่เป็นกังวล คือ มาตรา 112 และเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์  เพราะนับจนวันนี้ ตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล  ก็ยังไม่พูดอะไรออกมาชัดเจน  มีแต่คนอื่นพูด  แต่จริงๆ ก็ไม่ควรเหมารวมทั้งหมดเพราะนโยบายอื่นๆที่เขาเสนอมา มันดีและควรทำเป็นลำดับแรก แต่แทนที่จะจะตอบสนองเรื่องนี้ กลับใช้วิธีกดดันโดยการจะเอาม็อบมาที่สภา พรุ่งนี้ (23 พ.ค.) กดดัน ส.ว.ว่าจะโหวตหรือไม่โหวต 

“ในมุมของหมอ มองว่ามันไม่ฉลาด ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ถ้าลำดับความสำคัญ อะไรที่เป็นเรื่องปากท้องของประชาชน ควรต้องมาก่อน อีกทั้งยิ่งได้มาเห็นกระบวนการเตรียมอุปกรณ์ประท้วง มันยิ่งทำให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงๆลึก” แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า การไปกดดันของกลุ่มเยาวชนพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) จะทำให้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ลดลงหรือไม่  

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่จะทำให้ไม่เกิดความสำเร็จ เพราะการใช้กำลังบังคับไม่เคยชนะ ส่วนประเด็นมาตรา 112 ที่แม้จะไม่ได้อยู่ใน MOU แล้ว  แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ มองว่าไม่ได้เกี่ยวกับการที่ไม่มีอยู่ MOU  แต่มันเกี่ยวกับว่ายังต้องการทำอะไร เพราะเขาบอกแล้วว่าสิ่งที่ไม่ได้อยู่ใน MOU ก็ยังต้องทำต่อไป  และทั้งหมดก็ไม่ใช่นายพิธาเป็นคนพูดออกมาว่าตกลงต้องทำอะไรบ้างกับสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขในการตัดสินใจ ณ เวลานี้ขึ้นอยู่กับอะไร แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์กล่าวว่า จริงๆแล้วตนเองเป็นผู้ไม่โหวตตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่เกี่ยวกับนายพิธาแต่เกี่ยวกับหลักการ  แต่หากจำเป็นจะต้องโหวตเพื่อให้เขาได้คะแนน ถึง 376 เสียง เงื่อนไขก็มีเพียง 112 เรื่องเดียวเลย  ที่จะต้องมีความชัดเจน ถ้าไม่แตะสถาบันไม่มีนโยบายเรื่องพวกนี้ ก็มีโอกาสที่จะได้รับการโหวต