"เอกนัฏ" ยันไม่เปลี่ยนหัวหน้าพรรค "รวมไทยสร้างชาติ" ยํ้าไม่โหวตให้นายกฯ 112

"เอกนัฏ" สยบข่าวลือเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ยัน "รวมไทยสร้างชาติ" ไม่ปรับกรรมการบริหารพรรคตอนนี้ ยํ้าจุดยืนพรรคไม่โหวตให้นายกฯ แก้ 112 เผยไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย อย่าคิดกันไปเอง

วันที่ 22 พ.ค. 2566 เวลา 14.50 น. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมประชุมพรรคว่า ผู้สมัครทั้ง 36 คน จะมาพูดคุยเพื่อถอดบทเรียนหลังการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาคิดว่า คงยังไม่มีการกำหนดแนวทางอะไร ยังยืนยันในแนวทางของพรรค วันนี้ก็รู้สึกขอบคุณ เพราะจากที่ตั้งพรรคมาและผ่านการเลือกตั้งครั้งแรก เราได้รับคะแนนเสียงเกือบ 5 ล้านเสียงทั่วประเทศ เราก็จะย้ำให้ทุกคนขยันและตั้งใจทำงาน ตามแนวทางที่เรากำหนดไว้ก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานต่อไป โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะยังคงอยู่กับพรรคต่อไปหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่กับพรรคเป็นสมาชิกและประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ และยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ส่วนเรื่องการทำงานของพรรค

ก็คงจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามจังหวะเวลาอย่างเหมาะสมอยู่แล้ว จะเห็นว่า การเมืองมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทำงานก็คงจะเน้นการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องมีการสื่อสารที่แม่นยำ ชัดเจน และเป็นระบบมากกว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้ทั้งผู้บริหารและ ส.ส.ของพรรค จะร่วมกันออกแบบหรือวางแผนว่าจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ยังคงเป็นคนเดิมใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังเป็นคนเดิม ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาเรา 2 คน ทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เรียกว่า เสื่อผืนหมอนใบ ออกมาตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเลย และทํามาได้จนถึงขนาดนี้ ก็ต้องถือว่าทุกที่นั่ง ทุกคะแนนเสียง สำหรับพรรคที่เกิดใหม่เริ่มจากศูนย์ถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรค

ทั้งนี้การเลือกตั้งครั้งแรก คะแนนเสียงกว่า 4.67 ล้านเสียง ก็ต้องคิดว่า คะแนนเหล่านี้เป็นต้นทุนที่เราจะต้องนำไปพัฒนาต่อยอดจุดยืนแนวทางการทํางานไม่เปลี่ยน อุดมการณ์ยังเหมือนเดิม และคงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในเร็ววันนี้ เพราะเพิ่งจะผ่านการเลือกตั้งมาไม่นาน หัวหน้าพรรคกับตนยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามข้อบังคับของพรรค มีข้อกำหนดวาระของกรรมการบริหารพรรคไว้หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนจำไม่ได้ แต่กรรมการบริหารพรรคชุดนี้เพิ่งเข้ามาทํางานเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 มีเวลาทำงาน 7-8 เดือนก่อนเลือกตั้ง ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์ จะถอยเพื่อให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้ร่วมรัฐบาล มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ในพรรคไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย เราเป็นพรรค 36 ที่นั่ง ความต้องการช่วงชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่ภารกิจของพรรค แต่ถ้าได้ 316 เสียงก็ไม่แน่ ก็ต้องตรงไปตรงมา ไม่ใช่ภารกิจของเรา

เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวน้ำว่า เรายึดมั่นในจุดยืนของเราคั้งแต่แรก ไม่ว่าในกรณีไหน หากรัฐบาลมีวาระที่จะแก้หรือยกเลิกมาตรา 112 เราไม่เอาด้วย และเราก็จะไม่ยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีที่มีเจตนาเข้าไปแก้ไข หรือยกเลิกมาตรา 112 นี่คือจุดยืนสำคัญของเรา ซึ่งภารกิจสำคัญของเราคือถอดบทเรียนการเลือกตั้งที่ผ่านมา เอาคะแนน 4 ล้านกว่าเสียงเป็นต้นทุนเพื่อทำงานต่อ ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการทำงานให้ดีขึ้น เสียงสะท้อนที่มีมาเราจะนําไปปรับปรุง ส่วนการปรับเปลี่ยนผู้บริหารพรรคไม่จำเป็น วันนี้ตนทำหน้าที่เลขาธิการพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสที่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า อย่าไปหวังอย่างนั้น คิดกันไปเอง เป็นไปไม่ได้ ณ วันนี้ ตนไม่อยากพูดมากเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล เพราะไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะพูด การจัดตั้งรัฐบาลต้องไปฟังอีกฝั่งหนึ่ง แต่เรื่องการดำเนินการของพรรค ต่อไปก็จะทำให้ดีขึ้น เมื่อถามย้ำว่า หากอีกฝั่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ พร้อมจะเป็นไม้สองหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่เห็นอนาคตจะมีไม้สองด้วยซ้ำ พูดมากไปเดี๋ยวหาว่าเรากีดกันขัดขวาง ปล่อยให้เป็นเรื่องของฝั่งเขาดีกว่า หน้าที่ของเราคือต้องทำให้ดีกว่าเดิม

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลในอนาคต และมีการเทียบเชิญมาจะปิดประตูหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่มีเชิญแน่นอน อย่างที่ตนบอก อย่าไปพูดถึงตรงนั้น เดี๋ยวจะไปหลุดว่า ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะไปรวมกับตรงนั้นตรงนี้

TAGS: #เลือกตั้ง #เลือกตั้ง66 #รวมไทยสร้างชาติ