"ชลน่าน" ย้ำตำแหน่งประธานสภา ต้องไม่เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ด้าน "จาตุรนต์" ชี้เลือก ปธ.สภา ต้องไม่มีภาพ 2 พรรคเสนอชื่อ
วันที่ 31 พ.ค.2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์รูปภาพนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมระบุข้อความว่า ท่านประธานที่เคารพ ต้นแบบประธานรัฐสภาที่ดี ประมุข 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตย เลือกให้ดีหาใช่แค่ใครก็เป็นได้ งานการเมืองอย่าทำเล่นเด็กขายของ ว่า เป็นความเห็นของ ส.ว.คนหนึ่ง
ทั้งนี้ขอไม่มีความเห็น ซึ่งคณะเจรจาได้ข้อสรุปที่ดีมาก คือ การเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องไม่เป็นอุปสรรคในการจัดตั้ง เราจะอยู่ด้วยกันไปตลอด ดังนั้นการพูดถึงตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องตัดว่าเป็นโควตาของพรรคใดออกไป เราต้องจับมือกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด จะเป็นใครก็ได้ที่เป็นความเห็นร่วมกันของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย สำคัญที่สุดคือตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนพรรคเพื่อไทยได้มีการวางตัวใครไว้แล้วหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่มี เพียงแต่เสนอในหลักการ ส่วนตัวบุคคลนั้น ยังไม่มีการพูดถึงและเป็นเรื่องภายใน ซึ่งในมุมที่เราพูดคุยกันนั้น ต้องเหมาะสมและสามารถคุยกันได้สำหรับทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่เฉพาะพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกลเท่านั้น
สำหรับความชัดเจนเรื่องประธานสภาฯ จะทันกรอบการประชุมเพื่อเลือกประธานสภาฯ หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องทัน ช้าที่สุดคือวันที่ กกต. ประกาศรับรอง ส.ส.จะไม่ถึงนาทีสุดท้าย เราจะพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ อะไรที่สามารถเป็นความเห็นร่วมกันได้เราจะมาแถลงให้กับประชาชนทราบ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ความว่า แนวความคิดในการเลือกประธานสภาของพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะตรงกันกับทางพรรคก้าวไกลคือจะไม่ให้ความคิดแตกต่างในเรื่องตำแหน่งประธานสภามาเป็นอุปสรรคปัญหาต่อการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคุณหมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้แถลงไปในทิศทางนี้เช่นกัน คือถ้าพรรคไหนไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาขึ้นมาหรือไม่ได้ตามต้องการแล้วก็จะไม่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินต่อไม่ได้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะไม่มีภาพแบบนี้เกิดขึ้น
เมื่อหลักการเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่าแม้ว่าจะมีเรื่องที่มีความคิดแตกต่างกันพรรคร่วมก็จะต้องหารือและหาทางออกร่วมกันให้ได้ โดยไม่เอามาเป็นอุปสรรคหรือเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล และยังหมายความว่าจะไม่มีภาพของการที่ 2 พรรค (เพื่อไทย-ก้าวไกล) เสนอชื่อผู้ที่จะเป็นประธานสภาไปโหวตแข่งกันในสภา ดังนั้นทั้ง 313 เสียงต้องเสนอชื่อผู้ที่จะไปโหวตเป็นประธานสภาเพียงชื่อเดียวเท่านั้น