เด็ก ‘ก้าวไกล’ แฉกองทัพเรือรุกอุทยานภูเก็ต สร้างฐานทัพ 3700 ไร่

เด็ก ‘ก้าวไกล’ แฉกองทัพเรือรุกอุทยานภูเก็ต สร้างฐานทัพ 3700 ไร่
ว่าที่ ‘ส.ส.ก้าวไกล’ ภูเก็ต แฉข้อมูล กองทัพเรือยึดที่ดินอุทยานสวนป่าบางขนุน 3,700 ไร่ เตรียมสร้างฐานทัพเรือแห่งใหม่

ว่าที่ ‘ส.ส.ก้าวไกล’ ภูเก็ตแฉข้อมูล กองทัพเรือยึดที่ดินอุทยานสวนป่าบางขนุน 3,700 ไร่ เตรียมสร้างฐานทัพเรือแห่งใหม่ มีแผนผลักดันประชาชนออกจากพื้นที่ภายใน มิ.ย. นี้ ขอรัฐบาลหยุดดำเนินการชั่วคราวจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ]

ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ว่าที่ ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล เปิดเผยข้อมูลว่ามีประชาชนในพื้นที่สวนป่าบางขนุน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้ามาร้องเรียนถึงการถูกเจ้าหน้าที่กองทัพเรือเข้าไปในพื้นที่ในชุดเครื่องแบบลายพรางและอาวุธปืน เข้าไปบอกชาวบ้านให้ออกจากพื้นที่ บางรายทหารได้มีการเข้าไปปักเขตพื้นที่ พ่นสัญลักษณ์ลงบนต้นยางของชาวบ้าน ทั้งที่ประชาชนหลายรายมีโฉนดที่ดินอย่างถูกต้อง ทำให้ประชาชนเกรงว่าจะเสียสิทธิ์ในที่ดินทำกินไปเป็นพื้นที่ทหาร

ฐิติกันต์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พื้นที่สวนป่าบางขนุน มีพื้นที่ 3,763 ไร่ 1 งาน 2 ตารางวา เดิมเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของกรมป่าไม้ ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่พิพาทเนื่องจากประชาชนมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินไม่ว่าจะเป็นโฉนดที่ดินที่ออกตั้งแต่ พ.ศ. 2510 บางรายมี ทป.4 บางรายมี ภบท.5 บางรายยังไม่มีโฉนดที่ดิน

ปัญหาเกิดขึ้นจากวันที่ 1 มี.ค. 66 อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มีการเซ็นมอบพื้นที่ดังกล่าวให้กับกองทัพเรือ ภาค 3 เพื่อใช้ตั้งฐานทัพของกองพันต่อสู้อากาศยาน

ภายหลังจากการเซ็นมอบพื้นที่ดังกล่าว เจ้าที่ทหารจึงได้เข้าไปทำการปักหลักเขตแดนและเตรียมการขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ โดยที่ประชาชนไม่รู้มาก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนพื้นที่ป่า และพื้นที่ทำกินให้เป็นกองทัพ

ทั้งนี้ ฐิติกันต์เปิดเผยว่า เสนาธิการกองทัพเรือ บอกว่าความจริงแล้วกองทัพเรือต้องการพื้นที่เพียงประมาณ 500 กว่าไร่ แต่กรมป่าไม้กลับมอบพื้นที่อุทยานสวนป่าบางขนุนให้ทั้งหมด 3,700 ไร่ โดยฝั่งทหารอ้างว่า พื้นที่ที่เหลือทหารจะเข้ามาทำการอนุรักษ์ เพราะเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีกำลังคนไม่เพียงพอ

ปัญหาการบุกรุกในพื้นที่อุทยานสวนป่าบางขนุนเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์ แต่ประชาชนในพื้นที่แบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มประชาชนที่อยู่อาศัยเดิมที่ต้องการอนุรักษ์ป่าบางขนุนให้เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ และประชาชนที่เข้าไปทำกินใหม่ ด้วยความที่พื้นที่ไม่มีแนวเขตที่ชัดเจน ทำให้ในอนาคตควรมีการพิสูจน์แนวเขตที่ดินอย่างถูกต้อง และมีการทำประชาพิจารณ์ว่าประชาชนในพื้นที่ต้องการใช้สวนป่าบางขนุนแห่งนี้ควบคู่กับการอนุรักษ์ในฐานะป่าต้นน้ำอย่างไร

“ประชาชนต้องการการประชาพิจารณ์และทำให้สวนป่าบางขนุนเป็นป่าชุมชน แต่กรมป่าไม้กลับยกพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นพื้นที่ทหารและจะมีการสร้างฐานทัพเรือ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ทั้งสองกลุ่มรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะแทนที่พื้นที่จะเป็นป่าอนุรักษ์กลับถูกสร้างให้กลายเป็นฐานทัพของทหารแทน” ฐิติกันต์กล่าว

ภายหลังจากที่เกิดปัญหากับประชาชน ได้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือภาค 3 เรียกนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปคุยในค่ายทหาร เพื่อให้ฝ่ายปกครองไปบอกประชาชนว่าอย่ามีเรื่อง โดยกองทัพเรือมีแผนจะปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ และจะล้อมรั้วทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งการเรียกเข้าไปคุยในค่ายทหารดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและประชาชนมีความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

ฐิติกันต์กล่าวว่า จึงขอใช้พื้นที่สื่อมวลชน ส่งข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ หนึ่ง ให้ทหารหยุดการดำเนินการต่างๆ รวมทั้งการขับไล่ประชาชน ล้อมรั้วพื้นที่ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาดำเนินการ สอง ต้องมีการพิสูจน์สิทธิและเดินแปลง ว่าตรงไหนเป็นที่โฉนด ตรงไหนเป็นพื้นที่ประชาชนมีเอกสารสิทธิ์การใช้ประโยชน์ และตรงไหนเป็นที่ดินของรัฐ

สาม ต้องมีการประชาพิจารณ์การใช้ประโยชน์ที่ดิน และการตั้งฐานทัพว่าคนในพื้นที่ต้องการให้มีฐานทัพเรือมาตั้งในพื้นที่นั้นหรือไม่ และสี่ สิ่งแวดล้อม พื้นที่ตรงนี้เป็นป่าต้นน้ำ ไม่ควรมีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ใดๆ

“บริเวณใกล้เคียงกันมีท่าเรือทัพละมุ ที่มีพื้นที่เหลือ จนมีการเอาพื้นที่บางส่วนไปทำสนามกอล์ฟ ดังนั้นผมจึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ป่าต้นน้ำของประชาชนมาสร้างเป็นฐานทัพเรือในเวลานี้” ฐิติกันต์กล่าว

TAGS: #ภูเก็ต #ก้าวไกล