ฟื้นประเทศต้องกล้าคิดนอกกรอบ มั่นใจ "อุ๊งอิ๊งค์"มีความพร้อม

ฟื้นประเทศต้องกล้าคิดนอกกรอบ มั่นใจ
"ประเทศอื่นเค้าวิ่ง แต่เราเดิน มันจึงไม่มีทางทัน แต่การที่เราจะวิ่งได้ จะต้องมียุทธศาสตร์ ถ้ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เขาก็ขำกันทั้งโลกแล้ว 5 ปียังมองไม่ค่อยทันเลยเดี๋ยวนี้ เพราะอะไรๆมันเปลี่ยนแปลงเร็ว

มายเหตุ*  ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าว THE BETTER ถึงมุมมองแนวทางที่ประเทศไทยจะดีกว่าได้อย่างไรทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยมีรายละเอียดดังนี้

******************

อดีตนายกฯทักษิณ  ระบุว่า ประเทศมันดีกว่านี้ได้อีกเยอะ ถ้าคนชนชั้นนำของประเทศ อยากเห็นประเทศมันดีกว่านี้ แล้วไม่เห็นแก่ตัว ประเทศมันดีกว่านี้ได้อีกเยอะ เพราะโดยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เราเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยความเจริญที่ส่วนใหญ่มาจากภาคของเอกชนก็ไม่ได้น้อยหน้าประเทศอื่น แต่ว่าเรามีปัญหาเรื่องระบบการศึกษา เนื่องจากการสร้างค่านิยมที่ผิด ค่านิยมคือแสวงหาปริญญามากกว่าแสวงหาความรู้ เลยทำให้พื้นฐานความแข็งแกร่งของความเป็นคนไทยลดลงไป ซึ่งเป็นเรื่องไม่ยากที่จะแก้ไขโดยต้องแก้ที่วิธีการเรียนของภาครัฐ ไม่สามารถแก้แบบเดิมๆ 

สองคือเรื่องรัฐธรรมนูญที่เขียนหลังจากการปฏิวัติ คนเขียนรัฐธรรมนูญเหมือนมองแต่หน้าผม จัดการผมอย่างไร แต่ไม่ได้ดูที่ประเทศจึงทำให้ประเทศมันแย่ ไปคิดด้วยอารมณ์ไม่ได้คิดด้วยสติถ้าเขียนรัฐธรรมนูญด้วยสติปัญญา จะทำให้ประชาชนไทยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและทำให้มีการพัฒนา มีความคิดใหม่ใหม่เกิดขึ้นแน่นอน 

สามคือเรื่องการหากินทุกวันนี้ขอเรียกว่าเป็นการหากินแบบอนาล็อค แบบโบราณแบบที่เราทำมานานแค่นี้ก็ทำให้เราสู้ประเทศอื่นไม่ไหว เพราะว่าเราพัฒนาตัวเองช้าและให้โอกาสประชาชนน้อยไป และต่อไปก็มีอีกระนาบหนึ่งที่เรียกว่าดิจิทัล คือระนาบของเทคโนโลยีสมัยใหม่เราก็ยังไม่เข้าไปมากนัก สองตัวนี้ถ้าเราพัฒนาเรื่องการศึกษากลับให้โอกาสการหากินของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแหล่งทุนทั้งหลาย และระดับที่สองคือก้าวไปในเทคโนโลยีดิจิทัล แค่นี้ก็ทำให้ประเทศไทยดีกว่าเดิมเป็น 10 เท่า 

ในส่วนแนวทางแก้ปัญหาของประเทศ ต้องทำพร้อมพร้อมกันหลายอย่าง หนึ่งคือการปรับรัฐธรรมนูญเพื่อจะออกกฏหมายให้คนมีเสรีภาพ สามารถคิดในการทำสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นเพราะว่าโลกมันเปลี่ยนเร็วมากถ้ามัวแต่เอาอะไรมาครอบหัวคนไว้จะทำให้คนไทยไม่สามารถคิดอะไรที่สร้างสรรค์ได้ 

อันที่สองปรับระบบการศึกษาต้องยอมออนไลน์ให้มากขึ้นเพราะใช้ระบบแบบเดิมไม่ทันต้องจ้างครูจากต่างประเทศเข้ามาไม่ใช่เอาครูต่างประเทศมาสอนแต่เป็นการสอนออนไลน์มาจากประเทศเขานั่นแหละเพื่อเป็นการปรับกระบวนการคิดของเด็กรุ่นใหม่อย่างด่วน

อันที่สามเรื่องของการให้โอกาสแก่คนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่คนไทยมีศักยภาพ วันนี้เราให้คนไทยอยู่กับรายได้ขั้นต่ำมากเกินไป ซึ่งความจริงแล้วคนไทยมีศักยภาพที่จะได้รายได้ที่สูงกว่านี้เยอะแยะ แต่เราไม่เข้าใจว่าโลกมันเป็นยังไง

อย่างกรณีพรรคเพื่อไทยพูดเรื่องค่าแรง 600 บาท ไปคิดอย่างเดียวว่าจะเจ๋งแต่ไม่คิดว่าแบบนี้จะทำให้รวย ถ้าเจ้าของธุรกิจจ่ายคนงานวันละ 600 บาท แปลว่าธุรกิจก็ต้องมีรายได้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่คิดที่จะพัฒนาคิดแต่จะอยู่ที่เดิมแต่ต้องจ่ายเงินเดือนลูกจ้างเพิ่มขึ้นแค่นี้วิธีคิดก็ผิดแล้ว ความจริงแล้วควรคิดว่าที่ต้องจ่าย 600 เนี่ยเพราะกำลังคนซื้อมันมากขึ้น เป็นเพราะธุรกิจเราคงใหญ่ขึ้นแต่กลับไปคิดฝั่งตรงข้าม อันนี้คือวิธีคิดที่ผิดอันนี้ผู้นำจะต้องท้าทายให้คนกล้าคิดกล้าทำสิ่งใหม่ๆ 

อันสุดท้ายก็คือต้องรีบนำเทคโนโลยีเข้ามา เราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีของต่างชาติ ต้องซื้อต้องนำคนเข้ามาเสริมต้องทำ ถ้าลองย้อนคิดดูของการบินไทย แต่ก่อนเราทำแอร์ไลน์ไม่เป็น เราจ้างเอสเอเอสมาบริหาร ดีไม่ดีการบินไทยแต่ก่อนคือฝรั่งและค่อยๆ ถอยมาทำเอง ทำไปทำมาทำจนพังเพราะว่าไปเปลี่ยนระบบที่ใช้การเลือกคนข้างนอกเข้ามา คนข้างในก็เสียกำลังใจมันจึงไม่มีการทำงานให้เข้มแข็ง เป็นการทำงานเช้าชามเย็นชามไม่มียุทธศาสตร์

# แก้เศรษฐกิจให้ฟื้นต้องกล้าคิดนอกกรอบ

สำหรับแนวทางที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นเร็วขึ้น นั้น "ทักษิณ" มองว่ามันต้องกล้าคิดนอกกรอบคิดในกรอบแบบเดิมๆไม่ได้ คือทุกวันนี้ไม่ได้บอกว่าข้าราชการประจำไม่เก่ง คนเก่งๆเยอะ แต่เขาเก่งโดยการถูกใช้งานโดยการทำตามคำสั่ง แต่หากนำข้าราชการมาเป็นผู้นำอย่างเช่นการนำทหารมาเป็นนายกฯ เขาคิดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจไม่เป็น แล้วเขาก็ใช้คนไม่เป็น เลยทำให้ประเทศไทยเดินแบบรูทีนเดินไปวันๆ

"ประเทศอื่นเค้าวิ่ง แต่เราเดิน มันจึงไม่มีทางทัน แต่การที่เราจะวิ่งได้ จะต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีการวางยุทธศาสตร์ว่าเราจะต้องไปถึงจุดนี้ให้ได้เร็ว เราขาดยุทธศาสตร์ มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แค่นี้เขาก็ขำกันทั้งโลกแล้ว ยุทธศาสตร์อะไรตั้ง 20 ปีคุณมองเห็นอนาคตขนาดนั้นเลยหรอ ห้าปียังมองไม่ค่อยทันเลยเดี๋ยวนี้ เพราะอะไรๆ มันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก"

อดีตนายกฯกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้เราเต็มไปด้วยหนี้ หนี้ครัวเรือน หนี้ภาคเอกชนและหนี้ประเทศ ถ้าแก้หนี้ด้วยหนี้ก็เจ๊ง มันต้องแกหนี้ด้วยรายได้ต้องแสวงหาความคิดที่จะทำให้เกิดรายได้ใหม่ให้กับคนไทย เอกชนไทย และประเทศไทย มันถึงจะทำให้หนี้เบาบางลง แน่นอนว่าหนี้จะต้องแก้ต้องปรับโครงสร้างต้องบริหารแต่ต้องเน้นไปที่รายได้ใหม่ รายได้ใหม่ก็ต้องมีความคิดใหม่

"ถ้าคิดแบบรูทีน ผมมาเป็นนายกฯคุณก็ทำงานไปเรื่อยๆแล้วกันคิดแบบนี้เจ๊งเลย มีผู้นำเหมือนไม่เป็นผู้นำ ผู้นำต้องเป็นผู้นำ ต้องนำความคิดนำปัญญามากกว่าที่จะมาบอกว่าทุกอย่างต้องสงบคุณอยากจัดระเบียบคุณก็ไปจัดในกองทัพโน่น คุณไม่ต้องมาจัดระเบียบประเทศ ความแตกแยกขึ้นได้ตลอด เป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องเป็นการแตกแยกที่สร้างสรรค์ไม่ใช่การแตกแยกที่ทำลายกัน ที่แตกแยกแล้วทำลายกันเพราะมีคนยุ ถ้าไม่มีคนยุไม่ทำลายกันหรอก"

ในเรื่องการแก้วิกฤตทางการเมืองนั้น ทุกเรื่องถ้าไม่มีคนเห็นประโยชน์ส่วนตัวเป็นตัวนำ มันไม่ยาก คือวิธีคิดของนักการเมืองทั้งหลายของคนไทยคิดแบบนิ้วไม่ตรง คิดแบบนิ้วมันคดชี้เข้าหาตัวเอง ไม่ได้คิดมองไปข้างหน้ามัวแต่คิดหาตัวเอง ประเทศไทยไม่มีทางไปได้ แล้วต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าทำสิ่งนี้ประเทศจะได้อะไร ส่วนใหญ่เลยจะคิดว่าทำไปแล้วตัวเองได้อะไร ไปคิดตรงนี้ก่อนมันไปไม่ได้

"อย่างรัฐบาลถ้าคิดจะอยู่นานเจ๋งเลย อยู่นานไม่นานมันอยู่ที่ผลงานของเรา ต้องรีบเอาผลงานทำให้ประชาชนพอใจจะอยู่นานเอง แต่กลับไปคิดว่าจะต้องทำยังไงจะซื้อ ส.ส.จะดูดคนจะดูดคนนั้นคนนี้แบบนี้ไปดูดส้วมดีกว่า"

# เชื่อหลังเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาลไม่ยาก ประชาชนสั่งสอนพวกซื้อเสียง

"ทักษิณ"ยังมองอีกว่า หลังจากการเลือกตั้ง ประชาชนจะเป็นคนสั่งสอน คนซื้อเสียง ประชาชนรู้ มันไม่เหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนไม่มีข่าวสารลึกถึงครัวเรือน วันนี้ลึกถึงครัวเรือนชาวบ้านใช้สมาร์ทโฟนหมดแล้ว ทำให้โซเชียลเน็ตเวิร์คเข้าถึงทำให้คนเข้าใจรู้เรื่องปัญหาหมดทุกอย่างแล้วเฟกนิวส์ ไม่เฟกนิวส์ เขาพอจะแยกแยะได้ 

"วันนี้ประชาชนรู้หมด มีการทุจริตคอรัปชั่นอย่างหนัก มีเงินเหลือเฟือจนไปซื้อ สส.ดูด สส.เขาไม่ได้ภูมิใจเหมือนคนที่ออกไปแถลง เขามองว่านี่มันฟาร์มงูเห่านี่เป็นเจ้าของฟาร์มแล้วมันเอาตังค์ที่ไหนมาซื้อ พอเลือกตั้งคราวหน้าพวกนี้จะเจ๋ง ประชาชนจะสั่งสอนและประชาชนจะเลือกอนาคตของเขาเอง"

สำหรับความรู้สึกที่ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกเรื่องต่างมาโจมตีอยู่เรื่อยๆรวมถึงเรื่อง"ตู้ห่าว"นั้น "ทักษิณ" ตอบว่าเกี่ยวนิดนึง มันชื่อตู้ห่าว ผมชื่อถูกเห่า เพราะว่า ผมถูกเห่ามา 10 กว่าปีละ 

"ผมเลยเฉยๆกับการถูกเห่า ผมเชื่อว่าผมเป็นประโยชน์ต่อประเทศถ้าจะใช้ผมผมเป็นประโยชน์แต่ถ้ารังแกผม ผมเป็นคนไม่เคยยอมแพ้ แต่ถ้าจะใช้ผม ผมยินดีให้ความคิดกับทุกคน เพราะฉะนั้นอย่ามากลัวผม ผมเป็นคนใจดีจะมากลัวผมทำไม"

ในส่วนการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง แม้ สว.ยังโหวตเลือกนายกฯได้อยู่นั้น "ทักษิณ"เชื่อว่า การจัดรัฐบาลไม่ยากหรอก ไม่เหมือนคราวที่แล้ว คราวที่แล้วอำนาจการปล้นยังอยู่ แต่คราวนี้ประชาชนไม่ยอมแน่นอน เพราะประชาชนลำบากมา 8 ปี แล้วประชาชนสู้กลับแน่นอน 

"การสู้ของประชาชนเขาแค่ไปกาพรรคที่เขาจะฝากอนาคตไว้ได้แค่นั้นเอง ไม่จำเป็นต้องทำอย่างอื่น ให้คอยดูนะการใช้สิทธิ์จะเยอะมากประชาชนจะออกมาเพราะอัดอั้นและคะแนนที่กล้าจะออกมาเป็นเอกฉันท์"

# มั่นใจ "อุ๊งอิ๊งค์"มีความพร้อมสู่ถนนการเมือง

เมื่อถามว่าเป็นห่วงลูกสาวไหมที่ได้เข้ามาสู่การเมืองเต็มตัวขนาดนี้ "ทักษิณ" กล่าวว่า ลูกสาวของผม เป็นคนเข้าใจการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเขาเป็นลูกสาวคนเล็กที่สนิทกับพ่อ ฉะนั้นจึงได้คุยได้รู้เรื่องลึกๆ ทุกอย่าง จากพ่อตั้งแต่เด็กเพราะฉะนั้นเค้ารู้ดีเมื่อเขาตัดสินใจจะเป็นตัวแทนครอบครัว ตรงนี้ผมเชื่อว่าเขามีความพร้อม 

"เราอย่าไปกลัวมาร มารน่ะไม่มีอะไรหรอกถ้ามันไม่มีคนหนุนหลัง ซึ่งในวันนี้คนหนุนหลังไม่มี เพราะว่าตอนนี้ทุกคนต้องรักษาหลักของตัวเองก่อน ไปหนุนคนอื่นเรื่อยเปื่อยไม่ได้หรอกเพราะหลังตัวเองมันเหวอะหวะหมดแล้ว"

ขณะเดียวกันเมื่อถามถึงโอกาสที่ประเทศไทยจะผลจากการขัดแย้งได้มีไหม "ทักษิณ" บอกว่า อย่าไปกลัวความขัดแย้งโลกสมัยนี้ คนฉลาดพอที่จะรู้อย่าไปกลัวความขัดแย้ง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น หนึ่งมาจาก ถ้าทหารไม่เอารถถังเอาปืนที่เป็นภาษีของประชาชนออกมาก็จะมีปัญหาหรอก จริงๆแล้วทหารอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น เพราะอยากปฏิวัติ ปฏิวัติแล้วเกิดอะไรขึ้น มีนายพลเอกรวยไม่กี่คนแล้วก็มีนักธุรกิจได้ดิบได้ดีเพราะว่าทหารมีอำนาจไม่มีใครกล้าแล้วผลสุดท้ายเป็นยังไงสภาพประเทศลงเหวทุกที

"อย่าไปกลัวความขัดแย้ง เพราะประชาธิปไตยคือความเห็นที่แตกต่าง ความเห็นที่แตกต่างคือความเห็นที่ดี แต่ความเห็นที่แตกต่างกลายเป็นความขัดแย้งเพราะมีคนผู้มีอำนาจไปหนุนหลัง เพราะอยากได้อะไรซึ่งตอนนี้คนรู้ทันหมดแล้ว และความขัดแย้งถูกใช้อ้างเพื่อให้ตัวเองดูดีเพื่อให้ตัวเองดูเป็นพระเอกแต่ความจริงเราเป็นผู้ร้าย"ทักษิณ กล่าวทิ้งท้าย

TAGS: #ทักษิณ #เลือกตั้ง66 #โทนี่ #การเมือง #อุ๊งอิ๊งค์