"วิษณุ" ปัดตอบ "พิธา" โอนหุ้นไอทีวีให้บุคคลอื่น โยน สปน.ตอบ สถานะ itv ยัน พ.ร.บ.พรรคการเมือง ไม่มีข้อกำหนดหัวหน้าพรรคถือหุ้นสื่อ เว้นแต่เป็นผู้สมัคร ส.ส. - เเคนดิเดตนายกฯ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้า ข้อเรียกร้องความเสียหาย ระหว่าง ไอทีวี กับ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ สปน. ว่า ตนไม่ทราบ ต้องถาม สปน. เพราะผลัดกันเเพ้ชนะมาหลายครั้ง แต่ยังคงมีคดีอื่นที่ค้างอยู่ทั้งในศาลปกครอง และศาลอาญา
เมื่อถามถึงคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง หากไอทีวี ชนะ ก็จะกลับมามีสถานะสื่อได้นั้น นายวิษณุ ชี้แจงว่า ตนไม่ทราบ
เมื่อถามต่อ หากไอทีวี มีสถานะกลับมาเป็นสื่อจะส่งผลต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรตอบ ควรจะพิจารณาเองได้
ทั้งนี้ นายวิษณุ ปฏิเสธตอบคำถามกรณี นายพิธา ยอมรับว่า โอนหุ้นให้กับบุคคลอื่นแล้ว
เมื่อถามถึงกรณี ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับพ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติหัวหน้าพรรคการเมือง แต่ข้อบังคับพรรคระบุไว้ ศาลจะพิจารณา พ.ร.บ.พรรคการเมือง หรือข้อบังคับพรรค นายวิษณุ กล่าวว่า ขอไม่ตอบ แต่พ.ร.บ. พรรคการเมืองไม่ได้เขียนไว้ ตามมาตรา 56 ระบุว่า หัวหน้าพรรคการเมือง มีหน้าที่ออกใบรับรองให้กับสมาชิก ซึ่งหัวหน้าพรรคมีลักษณะต้องห้ามเยอะ
แต่ตามมาตรา 98(3) ซึ่งเป็นเพียงวงเล็บเดียวที่เกี่ยวข้องกับหุ้นสื่อ และเป็นวงเล็บเดียวที่ "ไม่ถูกนำไปใช้กับหัวหน้าพรรค" หมายความว่า หัวหน้าพรรค ไม่มีข้อห้าม ในการถือหุ้นสื่อ ซึ่งหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นกรรมการบริหาร ถือหุ้นสื่อได้ แต่หากเป็นผู้สมัครส.ส. ถือหุ้นสื่อไม่ได้ และว่าที่นายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชี ถือหุ้นสื่อไม่ได้ ซึ่งการไปเขียนข้อบังคับพรรคลักษณะนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องวินิจฉัย
เมื่อถามย้ำว่า มาตรฐานทุกพรรคการเมืองแสดงว่า หัวหน้าพรรคสามารถถือหุ้นสื่อได้ แต่พรรคก้าวไกล เขียนข้อบังคับพรรคให้เข้มข้นกว่ารัฐธรรมนูญ ถือเป็นเสรีภาพ และอาจจะต้องรับผลกระทบที่อาจจะตามมาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เป็นแบบนั้น
เมื่อถามต่อว่า เรื่องนี้เป็นเพราะ พรรคการเมืองไปเขียนเอง นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ใช่ พร้อมปฏิเสธตอบกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไปร้องถึงหัวหน้าพรรคอื่นๆด้วย โดยกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้ติดตาม ติดตามแต่ข่าว “ณเดชน์ ญาญ่า”