กมธ.พัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา ถก รัฐบาลแห่งชาติ เชื่อ "จเด็จ" มองการณ์ไกลกรณีเลือกนายกฯไม่ได้ เผย 18 ปีที่ผ่านมาเสนอมา 8 ครั้งไม่สำเร็จสักครั้ง "เสรี" ชี้โอกาสเกิดได้ตาม ม.272 วรรคสอง ทุกฝ่ายต้องร่วมมือก
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มี นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธานกมธ. ได้นัดประชุมเพื่อหารือถึงข้อเสนอทางการเมือง ต่อประเด็น การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤต หรือปัญหาการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามที่ นายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ เสนอ ให้ทุกพรรคที่รับเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลทำงานร่วมกัน
นายเสรี แถลงว่า ที่ประชุมได้รับฟังความเห็นของนายจเด็จต่อข้อเสนอดังกล่าวและมองว่า เป็นการมองการณ์ไกล และไม่ใช่เจตนาร้าย แต่เป็นความหวังดี เพื่อแก้ปัญหาวิกฤต การเลือกนายกฯ ที่อาจมีข้อขัดแย้ง ประเด็นคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. การถือหุ้นสื่อไอทีวี รวมถึงนโยบาย ที่มีประเด็นความมั่นคง เกี่ยวกับต่างประเทศที่ให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง ปัญหาเศรษฐกิจ การบริหารงบประมาณแผ่นดิน กระทรวงการคลังที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มาก รวมถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มีผลกระทบหมวด1, หมวด 2 ที่กระทบต่อความั่นคงและสถาบันเบื้องสูง ซี่งอาจกลายเป็นปัญหาบ้านเมืองได้
"กมธ.พิจารณาแล้วเห็นว่าเสนอดังกล่าวเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นเรื่องนอกรัฐธรรมนูญและ 18 ปีที่ผ่านมา เกิดข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ 8 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามการสร้างความปรองดอง กมธ.มองว่าจะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับความเห็นพ้องจากทุกฝ่าย โดยมีแนวทาง ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ คือ มาตรา 272 วรรคสองว่า ด้วยการเห็นพ้องของที่ประชุมรัฐสภา 2 ใน 3 หรือ 500 เสียง ที่ร่วมเว้นบทบัญญัติใช้แคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรคการเมือง หรือ เปิดช่องให้นายกฯ คนนอก ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นไปได้ยาก เว้นแต่ พรรคใหญ่ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เห็นชอบร่วมกัน ก็จะง่ายที่เกิดนายกฯคนนอก ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง ซึ่งผมมองว่ากระบวนการที่ได้รับความร่วมมือร่วมใจนั้นไม่ต่างจากรัฐบาลแห่งชาติ" นายเสรี กล่าว
นายเสรี กล่าวว่า กมธ.เห็นว่าโอกาสที่จะเสนออยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่สามารถเลือกนายกฯ ได้ตามมาตรา 272 วรรคหนึ่ง แต่การจะแก้ปัญหาได้ต้องรับความร่วมมือจากทุกพรรค ทุกฝ่าย ตามมาตรา 272 วรรคสอง นั่นคือความร่วมมือจากทุกพรรค เพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศ ดังนั้นเป็นอีกทางที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและทุกคนมองข้ามไป แต่นายจเด็จมองเห็นอนาคตต้องการให้เกิดความปรองดอง สามัคคี ไม่มีอะไรแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น