"สภาฯ"รอสำนวน ปปช. ฟัน "สุวิจักขณ์"ทุจริต จัดซื้อนาฬิกา 

"สภาฯ" รอสำนวนพิจารณาจาก ปปช. ฟันวินัย-อาญา "อดีตเลขาฯ-พวก" ฐานทุจริต จัดซื้อนาฬิการัฐสภา 15 ล้าน

นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และพวกทุจริตโครงการการจัดซื้อนาฬิกา มูลค่า 15,422,845 บาท เมื่อปี 2556 ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รอให้ ป.ป.ช. ส่งสำนวนการพิจารณามาให้กับทางสำนักงานเลขาฯ เพื่อตรวจสอบ และรับทราบ หากเป็นการดำเนินคดีอาญา ป.ป.ช. จะส่งให้สำนักงานอัยการ ดำเนินการตามกฏหมาย แต่หากมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวินัยข้าราชการรัฐสภาทางสำนักงานฯจะดำเนินการตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ข้าราชการรัฐสภาและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป

นางพรพิศ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ในตำแหน่งสุดท้ายของนายสุวิจักขณ์ ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ ถูกย้ายไปประจำที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนั้นป.ป.ช. จะต้องส่งสำนวนการ วินิจฉัยไปทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย

ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของนายสุวิจักขณ์ ที่ต้องดำเนินการแก้ต่างกับ ป.ป.ช. ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่ามีข้าราชการของรัฐสภาคนใดต้องเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับอัยการอีกหรือไม่ หาก ป.ป.ช.ส่งฟ้อง เพราะในคำร้องที่ ป.ป.ช. ไต่สวนระบุว่ามีนายสุวิจักขณ์และพวก

ส่วนเรื่องร้องเรียนอื่นๆ ของนายสุวิจักขณ์นั้น เท่าที่ทราบมีอยู่หลายเรื่องที่ ส.ส.ในขนาดนั้นยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนตัวจึงไม่ทราบรายละเอียด


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้พิจารณากรณีไต่สวนเรื่องโครงการการจัดซื้อนาฬิกาติดโดนรอบอาคารรัฐสภา มูลค่า 15,422,845 บาท เมื่อครั้งนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 56 โดยมีนายสุวิจักขณ์ กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับบริษัทเอกชนในการกำหนดสเปค รายละเอียด ราคากลาง

โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางสภาเข้าไปร่วมในการดำเนินการ เพื่อกำหนดล็อกสเปคนาฬิกายี่ห้อ BODET ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ให้เป็นผู้ชนะและเป็นผู้มีสิทธิ์ทำสัญญากับทางรัฐสภา ทั้งที่วัตถุประสงค์ของการจดจัดตั้งบริษัทไม่ได้มีเรื่องจำหน่าย และติดตั้งระบบนาฬิกาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีการปลอมหนังสือรับรองผลงาน และสัญญาจ้างที่ใช้ประกอบการเสนอราคา จนกระทั่งมีการอนุมัติลงนามในสัญญา 

อีกทั้งในขั้นตอนการส่งมอบงานให้กับรัฐสภานั้น  ทางบริษัท อีควิพเม้นท์ จำกัด ไม่ได้สั่งนาฬิกาเข้ามาจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายโดยตรง แต่สั่งจากบริษัท พรีเซียสไทม์ เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นผู้แข่งขันอีกราย

ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วจึงมีมติชี้มูลความผิด นายสุวิจักขณ์กับพวก มีโทษทั้งวินัยและอาญา แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนายสุวิจักขณ์ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งแล้ว จึงพ้นวินัย ส่วนโทษทางอาญานั้น ป.ป.ช.จะส่งสำนวนไปยังอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลอาญาทุจริตต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการการจัดซื้อนาฬิกาติดโดนรอบอาคารรัฐสภา มูลค่า 15,422,845 บาท เมื่อครั้ง นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 56

โดยมีนายสุวิจักขณ์ กับพวกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับบริษัทเอกชนในการกำหนดสเปค รายละเอียด ราคากลาง โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางสภาเข้าไปร่วมในการดำเนินการ เพื่อกำหนดล็อกสเปคนาฬิกายี่ห้อ BODET ของบริษัท อีควิพเม้นท์ จำกัด ให้เป็นผู้ชนะและเป็นผู้มีสิทธิ์ทำสัญญากับทางรัฐสภา ทั้งที่วัตถุประสงค์ของการจดจัดตั้งบริษัทไม่ได้มีเรื่องจำหน่าย และติดตั้งระบบนาฬิกาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีการปลอมหนังสือรับรองผลงาน และสัญญาจ้างที่ใช้ประกอบการเสนอราคา จนกระทั่งมีการอนุมัติลงนามในสัญญา

อีกทั้งในขั้นตอนการส่งมอบงานให้กับรัฐสภานั้นทางบริษัท อีควิพเม้นท์ จำกัด ไม่ได้สั่งนาฬิกาเข้ามาจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายโดยตรง แต่สั่งจากบริษัท พรีเซียสไทม์ เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นผู้แข่งขันอีกราย

TAGS: #ทุจริตจัดซื้อนาฬิกา #สุวิจักขณ์ #รัฐสภา