"โรม" มั่นใจ "พิธา" รอดทุกข้อกล่าวหา พิสูจน์แล้วเป็นเรื่องกลั่นแกล้ง ยันประธานสภาเป็นของ "ก้าวไกล" เท่านั้น เชื่อไม่ผิดใจกับ "เพื่อไทย" อยู่ในขั้นตอนการเจรจา คาด กกต.จะยุติการดำเนินตามมาตรา 151
ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม กล่าวถึงความคืบหน้าในการเลือกบุคคลดำรงแหน่งประธานสภา โดยยังคงยืนยันเช่นเดิม ว่าตำแหน่งนี้ “เรานั่ง” เหมือนกับที่เคยพูดมาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง เพราะเรามีโปรเจคว่าหากเราเป็นประธานสภา เราจะทำอะไร ดังนั้นคงต้องเป็นกระบวนการที่ต้องไปพูดคุยให้เรียบร้อย ซึ่งตนยังไม่ได้รับรายงานผลการเจรจากับพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร ก่อนย้ำอีกว่าตำแหน่งประธานสภา “เราจะทำส่วนนี้แน่นอน”
เมื่อถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยแล้วหรือไม่ นายรังสิมันต์ บอกว่ายังคงอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุย ตนยังตอบไม่ได้ว่าเจรจาไปถึงขั้นไหน และจบหรือยัง
ถามว่าอาจส่งผลต่อให้เกิดความไม่ลงรอยระหว่างพรรค อาจมีผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล นายรังสิมันต์ ระบุว่ายังไม่เห็นปัญหาในลักษณะนั้น ตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพูดคุยกัน “มันไม่มีทางเห็นตรงกันร้อยเปอร์เซ็นต์” เพียงแต่จุดไหนที่พรรคเพื่อไทยขอหรือพรรคก้าวไกลขอ ก็ต้องหาทางพูดคุยเจรจากันให้ได้ ซึ่งเชื่อว่าทั้งสองพรรคเห็นเป้าหมายใหญ่ที่จะเดินไปด้วยกัน ฉะนั้นจึงไม่กังวลจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวถามถึงการรวบรวมเสียงสมาชิกวุฒิสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ บอกว่าเท่าที่ตนทราบก็เป็นไปด้วยดี มีแนวโน้วดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จบอย่างไรคงต้องไปดูที่ผลโหวต ขณะเดียวกันยังทราบว่าผู้ที่จะโหวตปิดสวิตซ์ ส.ว. เชื่อว่าจะอยู่ในเส้นทางที่เป็นไปได้สูง
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าตนไม่สามารถได้ว่าไปคุยกับใครมาบ้าง แต่ต้องพยายามคุยให้ได้มากที่สุด กับทุกฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ขอยืนยันว่ามาตรา 272 เป็นกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งจะหมดอายุปีหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่รู้ว่า “จะต้องให้มาตรา 272 แผลงฤทธิ์ทำไม” ตนคิดว่าเราควรเดินหน้าตามความต้องการของประชาชน จากวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา และการที่ชี้แจงแบบนี้ เป็นการชี้แจงด้วยเหตุและผล เชื่อทุกฝ่ายรับฟัง “คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แน่นอน”
เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมจัดอบรมว่าที่ ส.ส. หลัง กกต. รับรอง นายรังสิมันต์ กล่าวว่าพรรคก้าวไกลจะมีการจัดอบรมแน่นอน แต่จะเป็นการภายใน เพราะมี ส.ส.ใหม่ค่อนข้างเยอะ ต้องทำให้ทุกคนมีความพร้อมมากที่สุด ทั้งการติวเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงการแชร์ประสบการณ์ว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เพื่อทำให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ได้ตั้งแต่วันแรก
สำหรับกำหนดการเปิดประชุมสภา นายรังสิมันต์ บอกว่าหากมีการรับรอง ส.ส.ถึง 95% แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าจะเป็นวันไหน แต่ยืนยันมีความพร้อมทำหน้าที่ และอยากให้กระบวนการเป็นไปโดยเร็ว เพราะจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน “วันเวลาที่ผ่านมาที่ยังไม่รับรอง ประชาชนเสียประโยชน์ ทุกอย่างมีต้นทุน มีค่าใช้จ่าย” ทำงานเร็วที่สุด ส่งผลดีต่อประชาชนมากที่สุด
ทั้งนี้หากนายพิธาได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องปมปัญหาสามารถไปพูดคุยกันภายหลังได้ และเชื่อว่าใครก็ตามที่มีแนวคิดในเรื่องดังกล่าวให้มองความเห็นประชาชน ซึ่งประชาชนกำลังรอคอยเรื่องการตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ หรือหากสุดท้ายมีการดำเนินคดีตามมาภายหลัง ก็อย่าไปคิดว่านายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้รับเลือก เพราะขั้วอำนาจเก่าจบไปแล้ว และการเลือกตั้งก็จบไปแล้ว
พร้อมกล่าวย้ำความมั่นใจว่าทุกข้อกล่าวหาไม่มีทางที่จะดำเนินการอะไรกับนายพิธาได้ ทั้งเรื่องหุ้นไอทีวี ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไป สุดท้ายอุปสรรคเหล่านี้ เป็นความพยายามที่จะกลั่นแกล้ง ในขณะที่ประชาชนคาดหวังและต้องการเห็นนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี และเห็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล ก่อนจะทิ้งท้ายว่าขออย่าใช้วิชาอะไรทำลายความหวังของประชาชน