ประชุม "กก.เปลี่ยนผ่าน" เร่ง 14 คณะทำงานทำข้อสรุปจัดทำนโยบายแถลงต่อสภาฯ เตรียมปิดจ็อบหลังมีรัฐบาลใหม่ ‘ก้าวไกล’ เผยได้เสียง ส.ว.ใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว แต่ต้องหาเผื่อ หวั่นมีคนเปลี่ยนใจ

ที่พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน พร้อมตัวแทน 8 พรรคการเมือง ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 2 เพื่อเป็นการติดตามความคืบหน้าการทำงานของคณะทำงานย่อยทั้ง 14 คณะ เพื่อให้คณะกรรมการฯ รับทราบ ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะปิดตัวลงเมื่อมีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้น คาดว่าจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายหลังเลือกประธานสภาเรียบร้อย โดยได้แจ้งให้คณะทำงานต่างๆ เร่งจัดทำข้อสรุปเสนอมายังคณะกรรมการฯ เพื่อบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาลแถลงต่อสภาต่อไป

เมื่อถามว่าได้มีการหารือถึงกรณีที่ กกต.รับรอง ส.ส.500 คน หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คุยกันเล็กน้อยว่า กกต.สามารถทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วในการเลือกตั้งครั้งนี้โดยรับรองทั้ง 500 คนในเวลาเดียวกัน ทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว วันนี้จึงได้มีการพูดคุยถึงปฏิทินต่างที่จะเกิดขึ้น รวมถึงจะได้รู้ว่าคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านจะเหลือระยะเวลาในการทำงานเท่าไร และคณะทำงานย่อยทั้ง 14 คณะจะต้องทำงานเสร็จเมื่อไร ทั้งนี้ยังในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการแบ่งกระทรวง เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเจรจา ที่จะมีการพูดคุยเพื่อหาจุดร่วมในนโยบายต่างๆ

เมื่อถามว่า กกต.ได้รับรอง ส.ส.เรียบร้อยแล้ว มีความคืบหน้าในการรวบรวมเสียง ส.ว. อย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจในการเดินหน้าพูดคุยกับทางฝั่ง ส.ว. เราอยากได้เสียงของ ส.ว.เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ เรียกว่าได้ว่าอีกนิดเดียวใกล้จะถึงเป้าที่เราต้องการแล้ว และจำเป็นต้องมีการทำเป้าเพิ่ม ในกรณีที่ประธานสภาจะต้องงดออกเสียง และป้องกันในกรณีที่อาจมี ส.ว.เปลี่ยนใจในอนาคต เราจึงต้องทำให้เกินเป้าเอาไว้ก่อน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าแกนนำพรรคก้าวไกลมีการไปเจรจาขอเสียงจากนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภานั้น ไม่มีการพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านในวันนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเจรจามากกว่า

เมื่อถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยาพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานสภา น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่จะเสนอชื่อได้ แต่ยังไม่มั่นใจว่าชื่อที่ ร.อ.ธรรมนัสเสนอจะเป็นใคร แต่เห็นว่าเห็นตามข่าวแล้วอาจจะเป็น ส.ส.จากทางพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ และสามารถโหวตแข่งกันระหว่าง 2 ตัวเลือกในสภา ก็เป็นวิธีที่เราทำกัน เหมือนเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้อาจจะมีความพิเศษกว่าครั้งอื่นเท่านั้นเอง

ขณะที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านมีการรับฟังข้อเสนอและผลการศึกษาของคระทำงานย่อย ที่เป็นประโยชน์ในการเอานโยบายแต่ละพรรคมาพูดคุยกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งนี้พรรคไทยต้องให้เกียรติพรรคแกนนำ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องให้เกียรติประชาชนที่เลือกเราเข้ามา

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า ในวันนี้พรรคเพื่อไทยจึงเสนอนโยบาย ให้คณะทำงานย่อยพิจารณาเพิ่มเติมใน 4 ประเด็นคือ 1. นโยบายเขตเศรษฐกิจใหม่ แก้การกิโยตินกฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่าง โดยเสนอให้มีการนำร่องเขตเศษฐกิจใหม่ใน 4 พื้นที่คือ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ กทม.และสงขลา 2.ค่าแรงขั้นต่ำ ควรเป็นเป้าหมายในระยะไกลคือปี 2570 ซึ่งค่าแรงควรขึ้นเป็น 600 บาท ควบคู่กับเงินเดือนปริญญาตรี 2.5 หมื่นบาท โดยเป็นการขึ้นค่าแรงแบบค่อยเป็นค่อยไปตามภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 3.การเข้าถึงแหล่งทุนของเอ็สเอ็มอีโดยใช้กลไกของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลเห็นร่วมกัน และ 4.นโยบายตลาดทุน เพื่นแหล่งระดมทุนในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้น

นายเผ่าภูมิ กล่าวด้วยว่า เราคุยกันภายใน 8 พรรค อะไรที่อยู่นอก 8 พรรคก็เป็นสิทธิ์ แต่ในส่วนของ 8 พรรค มีการคุยกันในลักษณะของคณะกรรมการเจรจาที่จะหาข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งเป็นภารกิจของคณะเจรจา ซึ่งจะมีการนัดประชุมกันในวันที่ 22 มิ.ย. และอาจจะมีการหารือกันนอกรอบเพราะเป็นประเด็นที่ต้องหารือกันระหว่างพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2 ซึ่งตนของสงวนสิทธิ์ให้คณะกรรมการเจรจาเป็นผู้ตอบคำถามนี้ เพราะเป็นผู้ได้รับอำนาจจากคณะกรรมการบริหารพรรคโดยตรง