"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า จัดงานประชุมใหญ่ประจำปี นายกองค์กรปกครองท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน โดยมีนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาท้องถิ่น กว่า 120 คน
การประชุมครั้งนี้ นายกฯ ท้องถิ่นได้โชว์ผลงานความสำเร็จนับตั้งแต่ได้เข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งครอบคลุมปัญหาพื้นฐานของประชาชน ตั้งแต่นายกเทพพร จำปานวน เทศบาลตำบลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ที่นอกจากจะทำน้ำประปาดื่มได้สำเร็จใน 99 วัน ล่าสุดยังอัพเกรดระบบประปาเป็นสมาร์ทมิเตอร์ครบทุกครัวเรือน ตรวจสอบคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงด้วยระบบ IOT (Internet of Things) สำเร็จในระดับตำบลเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
นายกทองออน สิงห์สุ เทศบาลตำบลโพนทราย จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งทำโครงการ “กองทุนขยะฌาปนกิจ” รณรงค์ให้ประชาชนแยกขยะ นำขยะรีไซเคิลมาขายให้เทศบาล เพื่อให้เทศบาลบริหารจัดการและขายขยะต่อ และหากมีสมาชิกในครอบครัวผู้เข้าร่วมโครงการเสียชีวิต จะได้เงินช่วยเหลือรายละ 6,150 บาท ซึ่งมาจากกำไรจากการขายขยะของเทศบาล โครงการนี้ดำเนินมาได้เพียง 7 เดือน สามารถสร้างมูลค่าแล้วกว่า 200,000 บาท และลดปริมาณขยะในตำบลได้กว่า 100 ตัน
นายกยุทธเดช ขนาดกำจาย เทศบาลตำบลทากาศเหนือ จังหวัดลำพูน มีการจัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน “ปงผาง Escape” ซึ่งสร้างรายได้ให้กับชาวปกาเกอะญอในพื้นที่ โดยไม่ทำลายวิถีชีวิตและป่าของชุมชน โดยหลังจากเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะในช่วงฤดูหนาวมา 2 ฤดูกาล สร้างรายได้ปีละกว่า 300,000 บาทให้กับหมู่บ้าน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มถึง 2 เท่าภายใน 2 ปี
นายกนราพงศ์ ทรงสวัสดิ์วงศ์ อบต. เข็กน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดมหกรรมวิ่ง “La Sportiva Kheknoi Ultra” งานวิ่งเทรลระยะ 100 กิโลเมตร โดยชูจุดเด่นการเป็นชุมชนม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีอัตลักษณ์วัฒนธรรมเข้มแข็ง และป่าชุมชนสวยงามอุดมสมบูรณ์ ทัศนียภาพระดับโลก โดยงานนี้จัดเพียงปีแรกก็มีนักวิ่งมาเข้าร่วมกว่า 500 คน สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาทในพื้นที่ในเวลาเพียง 2 วันที่จัดการแข่งขัน
นายกมาโนช พันธ์ฉลาด อบต. เชิงทะเล จังหวัดภูเก็ต มีโครงการสร้าง “คานเรือ” หรือโรงเรือนสำหรับนำเรือประมงพื้นบ้านมาจอดซ่อมบำรุง เพื่อตอบโจทย์ชาวประมงซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ในชุมชน คานเรือดังกล่าวออกแบบและควบคุมการก่อสร้างอย่างได้มาตรฐานสากลโดยทีมวิศวกรของคณะก้าวหน้า สามารถอำนวยความสะดวกให้กับชาวประมงในการนำเรือเข้าซ่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธนาธรกล่าวชื่นชมการทำงานของทุกท้องถิ่น โดยระบุว่า ตลอดสองปีที่ผ่านมา นายกฯ แต่ละท้องถิ่นได้พิสูจน์ว่าแม้จะมีงบประมาณและอำนาจจำกัด แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร และการสร้างความร่วมมือกับท้องถิ่นอื่นๆ ผ่านเครือข่ายคณะก้าวหน้า ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นจริงได้ และคณะก้าวหน้าพร้อมผลักดันให้นายกฯทุกแห่ง ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง 2566 ก็จะยิ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กว้างขวางมากขึ้น ไม่ใช่เกิดในไม่กี่ท้องถิ่นเช่นนี้
ทั้งนี้ นายกฯ ท้องถิ่นหลายคนยืนยันว่า ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล เพราะหลังจากได้ร่วมงานกับคณะก้าวหน้ามาเกือบ 2 ปี เชื่อว่าแนวทางการทำงานและอุดมการณ์แบบอนาคตใหม่ สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชนได้จริง