"พิธา"โต้ มีคุณสมบัติครบเป็นนายกฯ หวังไม่มีศาลเตี้ยในสภา 

"พิธา"ลุกโต้ ยัน มีคุณสมบัติครบทุกประการที่จะเป็นนายกฯ เชื่อคงไม่มีศาลเตี้ยในรัฐสภา แจงการแก้ ม.112 เป็นนโยบายหาเสียง พูดแล้วต้องทำ ชี้เป็นหน้าที่ของสภาฯ แก้ไขกฎหมายที่เป็นข้อขัดแย้ง อย่างมีเหตุผล

ในการประชุมรัฐสภา วาระเลือกนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญมาตรา 272 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวหลังถูกอภิปรายพาดพิงจากนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ นายประพันธ์ คูณมี ส.ว. ว่า ขอบคุณนายชาดา และนายประพันธ์ ที่สอบถามถึงคุณสมบัติในฐานะที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ รวมถึงติติงเรื่องบุคลิกและภาวะผู้นำ ซึ่งตนเองพยายามพัฒนาให้เป็นผู้ฟังมากกว่าพูดและพยายามพัฒนาให้เป็นคนที่รักษาคำพูด เหมือนที่พรรคภูมิใจไทยพูดว่า "พูดแล้วทำ" 

ทั้งนี้ ตนพยายามพัฒนาความเป็นผู้นำที่แม้ไม่เห็นด้วย แต่เห็นว่าเป็นเสรีภาพที่ท่านจะพูด นี่จึงเป็นหน้าที่ของรัฐสภา นี่คือสาเหตุที่ต้องใช้รัฐสภาแก้ไขกฎหมายที่เป็นข้อขัดแย้งมาโดยตลอด และนี่เป็นเวทีเลือกนายกฯ ไม่ใช่เวทีในการแก้ไขกฎหมายใด ๆ และผู้นำของประเทศนี้จะต้องมีความอดทนอดกลั้น รับฟังข้อกล่าวหาที่จะจริงหรือไม่จริงก็แล้วแต่

ส่วนกรณีนายประพันธ์ กล่าวถึงคุณสมบัติของตนเองนั้น ยืนยันว่า ตนยังมีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบทุกประการ และด้วยความชอบธรรม ไม่ว่าจะกระบวนการที่ตนยังไม่รู้เลยว่าข้อกล่าวหาคืออะไร เห็นมติผ่านสื่อมวลชน หลักการที่สมมติฐานว่า บริสุทธิ์ไว้ก่อน มันจะมีศาลเตี้ยในรัฐสภานี้ไม่ได้ ตนยังไม่ได้มีสิทธิจะชี้แจงเลย และปี 62 ก็มีเหตุลักษณะนี้ก็ไม่กระทบการเลือกนายกฯ ท่านบอกว่ารัฐบาลที่รวมเสียงข้างมากได้

นายพิธา ยังระบุว่าผู้นำที่ดีของประเทศจะต้องมีความอดทนอดกลั้น รับฟังกับข้อกล่าวหาที่จะจริงหรือไม่จริง โดยเป็น 4 ข้อที่ขอสัญญาว่าเป็นคุณลักษณะที่ผู้นำของประเทศไทยควรจะมี และระบุว่าเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้อยู่ใน MOU ของ 8 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล

แต่การแก้ไขกฎหมายอยู่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติ รับเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะแก้ไขกฎหมายที่เป็นข้อขัดแย้ง แม้แต่ละคนจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน พร้อมระบุว่าหากมีการพูดคุยอย่างมีวุฒิภาวะและมีเหตุผล นี่จะเป็นทางออกของประเทศจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

TAGS: #โหวตนายก #นายกพิธา #รัฐสภา