“ทิพานัน” แนะประชาชน นักธุรกิจ ฟ้องแพ่ง - อาญา เกรียนคีบอร์ดคอมเม้นท์ละเมิดสิทธิ์ให้ถึงที่สุด หลังไม่สนับสนุน “พิธา” เป็นนายกฯ ซัดคลิป “พิธา” เข้าข่ายยุยง สอนมวยจะเป็นผู้นำต้องเคารพกฎหมาย
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวทางสื่อโซเชียลที่กำลังบูลลี่ ข่มขู่ ทำร้าย ให้ร้ายและคุกคาม ประชาชนและธุรกิจของผู้ที่ไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกล รวมถึงสมาชิกรัฐสภาที่ไม่สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า เป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามระบอบครรลองประชาธิปไตย ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ผู้ถูกกระทำสามารถใช้สิทธิโดยสุจริตในการปกป้องและป้องกันความเสียหายจากการละเมิดกฎหมายดังกล่าวได้ ไม่ว่าจะเป็นความผิดทางอาญาโดยการรวบรวมพยานหลักฐานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และใช้สิทธิเรียกร้องทางแพ่งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อธุรกิจและความเป็นส่วนตัวได้
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญได้รองรับสิทธิของประชาชนไว้หลายมาตรา เช่น มาตรา 32 “บุคคลย่อมมีสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัว การกระทำอันเป็นการละเมิดหรือกระทบต่อสิทธิของบุคคลตามวรรคหนึ่ง หรือการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าในทางใด ๆ จะกระทำมิได้ฯ” และมาตรา 40 “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้ฯ”
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ดังนั้นกระบวนการเคลื่อนไหวทางสื่อโซเชียลในขณะนี้จึงละเมิดสิทธิดังกล่าว และรัฐธรรมนูญ 2560 ยังได้รับรองสิทธิของบุคคลและผู้ประกอบการธุรกิจในมาตรา 25 ประชาชนผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำความผิด โดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทั่วประเทศหรือจะดำเนินการฟ้องคดีเองก็ได้
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการดำเนินคดีและรวบรวมหลักฐานในเชิงเทคนิคเทคโนโลยีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีนวัตกรรมที่ดีสามารถสืบสวน สอบสวนอย่างรวดเร็วมากกว่าเดิม มีความร่วมมือค้นหาผู้ต้องสงสัยร่วมกันกับผู้ให้บริการโซเชียลต่างๆ มากขึ้น สามารถค้นหาอวตารและผู้ใช้ VPN ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการเชื่อมั่นในกระบวนยุติธรรมที่จะดำเนินการฟ้องบุคคลต่างๆ ที่ได้แสดงความคิดเห็นตามโซเชียลอันกระทบต่อสิทธิตามข้อกฎหมายข้างต้นและเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งได้รวดเร็วขึ้น
“ส่วนกรณีที่นายพิธา เผยแพร่คลิปและข้อความเรื่องประกาศครั้งสำคัญ 15 ก.ค.2566 โดยมีใจความว่า “ผมจึงขอให้ประชาชนทุกคน ร่วมทำภารกิจกับผมในสองสมรภูมินี้ โดยการส่งสารถึง ส.ว. ในทุกวิถีทาง ทุกวิธีการที่ท่านนึกออก ย้ำ ขอเป็นวิธีการสร้างสรรค์ ช่วยกันเชิญชวนให้ ส.ว. โหวตนายกตามมติประชาชน หรือ โหวตยกเลิกมาตรา 272 เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน” แล้วหากผู้เชียร์นายพิธามีการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดต่อสิทธิ เสรีภาพ ทรัพย์สิน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของ ส.ว.ท่านใดเกิดขึ้นก็ตาม นายพิธาก็อาจเข้าข่ายต้องร่วมรับผิดในการกระทำดังกล่าวในฐานะผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ตามป.อาญามาตรา 84, 85 และ 87 เพราะเป็นผู้ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดโดยการโฆษณา และยังอาจเข่าข่ายความผิดตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 45 ที่บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งอาจมีโทษถึงยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองตามมาตรา 92(3)” ด้วย น.ส.ทิพานัน กล่าว