"เศรษฐา" เตือน ปากท้องประชาชนต้องมาก่อนขัดแย้งการเมือง เชื่อมั่น 8 พรรคร่วมดัน พิธา เป็นนายกฯ จนสุดทาง หงุดหงิดหลังโดนโยงขึ้นนายกฯ
ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังจากทำคลิปโปรโมตเรื่องเศรษฐกิจของพรรค ว่า มาอธิบายเรื่องหนี้สินต่างๆ ลงสื่อโซเชียล วันอาทิตย์ต้องมาแต่งสูทอึดอัดนิดหน่อย แต่ว่าโอเคครับ
เมื่อถามว่าเรื่องเศรษฐกิจต้องเดินหน้าอย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องเดินหน้าไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือส่วนหนึ่งของรัฐบาล เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ ปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดต้องเร่งจัดการ
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ต้องเร่งมาตรการต่างๆ เพราะหากเป็นรัฐบาลได้ดูแลในกระทรวงที่ได้รับมอบหมาย ก็จะเร่งผลักดันมาตรการต่างๆ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ต้องระงับความเดือดร้อนของประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เลือกตั้งจบสองเดือนแต่ยังไม่ได้นายกฯ ประชาชนมีความเอือมระอา
การที่กลุ่มสนับสนุน นายพิธา ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนี้ กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีควรจะเร่งเดินหน้าต่อไปจากนี้หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ตนไม่ได้ติดตามว่าคาร์ม็อบจะมีคนมาร่วมมากหรือน้อย พรรคร่วมจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) คงจะมีข้อสรุปได้อย่างชัดเจน ส่วนตัวขอยืนยันว่าเราอยู่ใน 8 พรรคร่วมที่สนับสนุนนายพิธาจนสุดทาง
รู้สึกหงุดหงิดหรือไม่เมื่อมีคนเสนอชื่อเป็นนายกฯ นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจแต่หงุดหงิด ตนไม่เคยพูด ไม่เคยกล่าวถึงอะไรเลย เจอนักข่าวประจำไม่เคยหลบหรือซ่อน ใครมีอะไรก็ถามตนได้ตลอด ยืนยันว่าไม่เคยพูด ต้องให้เกียรติ 8 พรรคร่วมและพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า ได้ติดตามคลิปที่ นายพิธา ได้โพสต์ลงโซเชียลหรือไม่ นายเศรษฐา เผยว่า ไม่ได้ติดตาม แต่เห็นว่านายพิธาพูดว่าเคลียร์แล้วเคลียร์ได้ แต่ตนไม่ทราบความจริง ความรู้ส่วนตัวด้านนี้ไม่มีก็ถือว่าเป็นธรรมดาของคนที่ร่วมอุดมการณ์ เราก็ขอเป็นกำลังใจให้
ตอนนี้หุ้นดีขึ้นจากกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะเป็นพรรคในการแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ในฐานะที่ดูแลเรื่องของเศรษฐกิจเห็นกระแสข่าวดังกล่าวรู้สึกอย่างไร นายเศรษฐา เผยว่า ตลาดหลักทรัพย์เป็นตัวชี้นำของความมั่นใจ ไม่อยากเข้าข้างใครแต่การกระเตื้องขึ้นของตลาดหุ้น เป็นเรื่องของการคลายกังวลที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วขึ้น เพราะกว่าสองเดือนแล้วที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะจัดสรรงบประมาณ ปี 67 ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะงบปี 67 จะเริ่มที่เดือนตุลาคมมีเวลาไม่ถึงสามเดือน หากเราจัดตั้งรัฐบาลได้ภายใน 15 ส.ค. จะได้ใช้จริงวันที่ 15 มี.ค.ปีหน้า ถือว่าช้ามาก เป็นห่วงปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภัยแล้งหรือหนี้สิน ควรให้ความสำคัญมากกว่าการเมือง
พรุ่งนี้ (17 ก.ค.) 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะประชุมหารือจะมีการกำหนดแผนสองหรือไม่ ถ้าหากว่าวันที่ 19 ก.ค. ญัตติของนายพิธาอาจถูกตีตก ผลจะออกมาอย่างไรนั้น ตนไม่ทราบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจา พรุ่งนี้ช่วงบ่ายผลสรุปก็คงจะออกมา ตนเคารพการตัดสินใจของทั้ง8พรรค
เมื่อถามว่าจะให้กำลังใจนายพิธาอย่างไร หลังจากที่นายพิธาโพสต์ไอจีมีภาพคู่กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวไกล และแท็ก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ถามกลับว่า ช่วงนั้นดึกหรือยัง ถ้าเที่ยงคืนผมว่าทุกคนถ้าเครียดก็ต้องไปสังสรรค์เป็นธรรมดา ชีวิตต้องเดินต่อไป เรื่องการเมืองกับชีวิตส่วนตัวเป็นคนละเรื่อง เราเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ขอส่งกำลังใจให้กัน