รัฐสภาวุ่น ยังโหวตนายกฯไม่ได้ 2 ฝ่ายงัดข้อเห็นต่างมาตรา 41 ถกเป็น "ญัตติหรือเป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ"

วันที่  19 ก.ค.มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีวาระการประชุมสำคัญ คือการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งถือว่าเป็นการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดประชุมหลังจากที่ องค์ประชุมครบ โดยได้นำเข้าสู่วาระการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที
จากนั้นนายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นบุคคลให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายสุทิน เสนอชื่อนายพิธา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์ ส.ส.ราชบุรีพรรครวมไทยสร้างชาติ จะลุกขึ้นประท้วงทันที โดยเห็นว่า รัฐสภากำลังทำผิดข้อบังคับข้อที่ 41 ที่ได้บัญญัติไว้ว่าญัตติที่ตกไปแล้ว ห้ามไม่ให้มีญัตติที่มีหลักการเช่นเดียวกันขึ้นมาเสนอในที่ประชุมอีก ซึ่งข้อบังคับมีสถานะเทียบเท่าพ.ร.บ. ถือเป็นกฎหมายที่สมาชิกรัฐสภาต้องยึดถือ
จากนั้น มีการประท้วงกันไปมา กรณีการเสนอชื่อนายพิธา เป็นญัตติหรือไม่ โดยใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่ง ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยฝ่ายเสนอชื่อนายพิธา เห็นว่าการเสนอชื่อไม่ใช่ญัตติ แต่อีกฝ่าย ยืนยันว่าเป็นญัตติ โดยเฉแพาะฝั่งพรรครทสช.   
บรรยากาศคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงนายอัครเดช โดยระบุว่าไม่ควรชี้หน้าอีกฝ่าย ด้านนายอัครเดช ลุกขึ้นตอบโต้ว่าไม่มีการชี้หน้าแต่อยางใด 
พร้อมกับเสนอให้ประธานรัฐสภาใข้อำนาจวินิจฉัยชี้ขาด 
นายวันมูหะหมัดนอร์ กล่าวว่า ญัตตินายอัครเดช ชอบด้วยข้อบังคับที่ 31 และ 36
ส.ส.ก้าวไกล ระเบียบข้อ 33 ถ้าเสนอญัตติใดแล้วจะเสนอญัตติอื่นไม่ได้ แต่ประธานปล่อยให้เสนอญัตติอื่น