ประธานรัฐสภา แจงทำหน้าที่เป็นกลาง หลังหลายฝ่ายตำหนิ การโหวตนายกฯรอบสอง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมรัฐสภา ในวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ยังมีบางประเด็นที่ไม่เข้าใจถึงการทำหน้าที่ของประธานการประชุม ว่า การประชุมวันนั้น เป็นการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 แต่ก่อนการประชุมมีข้อคิดเห็นที่ยังไม่ตรงกัน คือ มีบางฝ่ายเสนอว่า ไม่ควรเสนอชื่อซ้ำ เพราะจะไปขัดข้อบังคับข้อที่ 41 แต่มีอีกฝ่ายเห็นว่า การเสนอเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ญัตติปกติทั่วไป เป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุม หมวด 9 ที่ได้ออกพิเศษ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี จึงเกิดการถกเถียงว่าไม่ควรใช้ข้อบังคับข้อที่ 41 และในการประชุมวิป 3 ฝ่าย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงต้องไปขอความคิดเห็นต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 19 กรกฎาคม แต่การถกเถียงก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และจากการที่ได้ฟังการอภิปราย ตลอด 6 ชั่วโมง ไม่มีใครอภิปราย ว่า มีเหตุการณ์อะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึงตัดสินใจวินิจฉัยให้ลงมติ จนมีการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่เกิดขึ้น
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวชี้แจงถึงข้อวิจารณ์ที่ว่า เป็นประธานรัฐสภาสามารถชี้ขาดได้ โดยไม่ต้องรอมติที่ประชุม ว่า ชี้ขาดได้ แต่ก็มีคนฟ้องได้ ไม่ใช่ไม่กล้าที่จะชี้ขาด แต่วินิจฉัยแล้วว่า ไม่มีข้อมูลที่จะชี้ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ก็เป็นเรื่องของข้อขัดแย้ง จึงใช้ข้อบังคับ ข้อที่ 151 การให้รัฐสภาตีความนั้นดีกว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ใครคนใดคนหนึ่งตัดสินใจ พร้อมย้ำว่า ไม่ว่ายกไหนก็จะไม่มีวันที่จะท้อใจ เมื่อรับหน้าที่แล้ว ก็จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด
นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่าทำหน้าที่ตามข้อบังคับการประชุม และตามนโยบายที่ยึดหลักจะปฏิบัตตนเป็นกลางทางการเมือง ไม่ใช่รับฟังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนในการโหวตครั้งที่ 3 จะเสนอชื่อเดิมได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ตอบไม่ถูก ต้องแล้วแต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนกรณีที่หากพรรคก้าวไกลมีแนวคิดจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำหลายครั้งว่า เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ และหากศาลวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องดำเนินไปตามนั้น เพราะมีผลผูกพันไปทุกองค์กร
ส่วนเรื่องเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในโซเชียล และสมาชิกรัฐสภาหรือทัวร์ลงนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มองว่า ใครจะทัวร์ลง ใครจะคิดเห็นอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ ที่สามารถคิดแตกต่างได้ ส่วนตัวไม่กลัวทัวร์ลง เพราะต้องการ ทำหน้าที่เพื่อให้ได้ นายกรัฐมนตรี ของประเทศไทย ส่วนที่จะมีข้อตำหนินั้น พร้อมยอมรับคำตำหนิส่วนตัวไม่มีปัญหา และยอมรับได้ พร้อมย้ำว่า ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ทำด้วยความเป็นกลางแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา หากต้องตัดสินอะไร ย่อมมีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
สำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในรอบต่อไป ยังเป็นวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ซึ่งได้ออกหนังสือเชิญประชุมแล้ว และจะประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 14.00 น.