พปชร.แสดงจุดยืนชัด ไม่หนุนพรรคแก้ ม.112 

พปชร.แสดงจุดยืนชัด ไม่หนุนพรรคแก้ ม.112 
พลังประชารัฐ แสดงจุดยืนชัด รับไม่ได้ร่วมงานพรรคแก้ม.112 ขอก้าวข้ามความขัดแย้ง ยันไม่เสนอชื่อ "บิ๊กป้อม" หากรวมเสียงข้างมากไม่ได้ 

ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานประสานงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวผลหารือหาแนวทางแก้วิกฤตและทางออกประเทศร่วมกับพรรคเพื่อไทย 

นายสันติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้รับเกียรติจากพรรคเพื่อไทยเชิญไปพูดคุยเพื่อแก้วิกฤตของการจัดตั้งรัฐบาลและการบริหารบ้านเมือง เนื่องจากหลังการเลือกตั้งเป็นเวลาสองเดือนกว่ามีอุปสรรคในการตั้งรัฐบาล บริหารชาติบ้านเมือง หากช้าก็จะกิดปัญหา การพูดคุยในวันนี้ได้รับความรู้สึกที่ดี พูดคุยอย่างตรงไปตรงมา พรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า พรรคเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแน่วแน่เพื่อให้ชาติมีความมั่นคง ประชาชนผาสุก 

พรรคพลังประชารัฐแจ้งกับพรรคเพื่อไทยว่า สามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ต้องเป็นพรรคที่ไม่แตะต้องหรือมีแนวคิดแก้ไขกฎหมายมาตรา 112  หากพรรคใดมีแนวคิดดังกล่าว เราไม่สามารถที่จะร่วมทำงานหรือบริหารบ้านเมืองด้วยได้ เป็นหลักการสำคัญที่จะปฏิเสธการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคพลังประชารัฐตระหนักว่าเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจึงมีหน้าที่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐรับไม่ได้

"ผมเป็นประธานกรรมาธิการงบประมาณมา 4 ปี รู้ว่าพรรคนั้นมีแนวคิดอย่างไร เรามีความคิดแน่วแน่ว่าไม่สามารถทำงานร่วมด้วยได้" 

อย่างไรก็ตามการหารือวันนี้ไม่ได้พูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล แต่เป็นเพียงการแสดงเจตจำนงว่ามีความเห็นอย่างไรในการจัดตั้งรัฐบาล  หลังจากนั้นจะมีการคุยในขั้นตอนต่อไป

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าการหารือกับพรรคเพื่อไทยเป็นไปเพื่อหาทางออกแก้วิกฤต ไม่ได้หารือในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีประเด็นการเชิญจัดตั้งรัฐบาล พรรคเรามีนโยบาย มีแนวทางไม่เหมือนบางพรรค การทำงานด้วยในรัฐบาลเดียวกันถือเป็นปัญหา คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจน ว่าหากจะต้องร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกันก็ขอไม่ร่วมดีกว่า

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้ขอให้สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย หรือหากเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน พรรคพลังประชารัฐพร้อมสนับสนุนหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า พรรคเพื่อไทยพูดชัดเจนว่าเชิญเข้าไปหารือ หาทางออกให้กับวิกฤตบ้านเมือง 

ได้เสนอทางออกให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เราแจ้งแนวทางของเราไปแล้ว พรรคใดที่มีแนวคิดว่าจะแก้กฎหมายมาตรา 112 เราคงร่วมทำงานด้วยไม่ได้ ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้รับฉันทานอนุมัติเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่ต้องมาพูดคุยกับแต่ละพรรค ท้ายที่สุดก็ต้องคุยกับ สว. เพื่อรับรู้ความเห็น ดำเนินการแก้ปัญหาให้บ้านเมือง ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรคที่หลังการเลือกตั้งต้องช่วยกันเร่งรัดจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

ส่วนวันที่ 27 ก.ค.นี้ จะเลือกนายกฯ จบในวันนั้นเลยหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจจะรีบให้มีรัฐบาล จึงรีบเชิญพรรคฝั่ง 188  เสียงไปฟังแนวคิด 

หากไม่มีพรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐพร้อมสนับสนุนพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าหลักการของพรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจนคือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง หากร่วมรัฐบาลกับใครแล้วเกิดความแตกแยกในสังคมก็ขอไม่ร่วม

เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เห็นด้วยหรือไม่ที่พรรคพลังประชารัฐไปคุยกับพรรคเพื่อไทย ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าเราประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีจุดยืนว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้งบนพื้นฐานอะไรบ้าง 

ส่วนกระแสหากวันที่ 27 ก.ค.นี้ การเลือกนายกฯ ไม่ลงตัว จะเสนอชื่อพลเอกประวิตร หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องมีสมาชิกสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง หากเสียงไม่พอไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะจะเกิดคำวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม พรรคพลังประชารัฐมีมติชัดเจนว่าจะไม่เสนอพลเอกประวิตร หากเสียงสนับสนุนต่ำกว่า 250 เสียง ซึ่งเป็นนโยบายของพลเอกประวิตรด้วย

สำหรับแนวทางที่พล.อ.ประวิตร จะลาออกเพื่อเปิดทาง "ไม่มีลุง" เป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น พลเอกประวิตรยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง การรับตำแหน่งใด ๆ ในอนาคตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะทำอะไรต้องนึกถึงภูมิประวัติที่ท่านได้สร้างมาด้วย 

ร.อ.ธรรมนัส ยังเปิดเผยสเปคนายกฯคนที่ 30 ระบุว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพาบ้านเมืองก้าวข้ามความขัดแย้ง ทุกวันนี้เรายังถกเถียงกันเป็นเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า นายกฯ คนต่อไปจะต้องเป็นบุคคลที่มีความพร้อมทุกอย่างทั้งการแก้ปัญหาความแตกแยกในสังคม และนำพาเศรษฐกิจให้รอด

TAGS: #จัดตั้งรัฐบาล #พลังประชารัฐ #เพื่อไทย