ประธานสภาฯ ดึงสติสส. เข้าสภามาได้เพราะประชาชน อย่าเแปลงร่างเป็นงูเห่า วอนอย่าหลับระหว่างประชุม ระวังเจ้าชู้ - ซุกกิ๊กเกิดปัญหา
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดการสัมมนา เรื่องบทบาทหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการสนับสนุนการดำเนินงานและการให้บริการแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ว่า การสัมมนาครั้งนี้จะทำให้สส.ได้รับรู้ถึงอำนาจหน้าที่ซึ่งมีความจำเป็น เพื่อประโยชน์ของการทำหน้าที่ และเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั่วไป และขอให้รับฟังวิทยากร ที่จะมาร่วมสัมมนาในวันนี้ อย่าเป็นน้ำที่เต็มแก้วเพราะถ้าเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้วและสามารถที่จะเติมเต็มได้ตลอด 4 ปีแห่งความหวังของประชาชน 4 ปีของความตั้งใจ จะเป็นสมาชิกที่ดีของพวกเรา
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า สส. ที่เข้ามาในครั้งนี้จะได้เป็นสส. อีกหลายสมัย ส่วนสส. ที่เคยเป็นมาหลายสมัย บางคนยังมานั่งฟังเพราะ ต้องการเพิ่มเติมความรู้ ซึ่งผู้ที่เข้ามาเป็นสส. เป็นผู้สมัครใจเองที่จะมาเป็นผู้แทนของประชาชนลำบากอย่างไรก็รู้ ดี กว่าจะได้รับเลือกมา จึงขอให้คำนึงว่าที่มา มาจากเสียงของประชาชนที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา เพื่อจะได้ไม่หลงผิด หากยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง จะมีโอกาสผิดน้อยหรือไม่ผิดเลย และเมื่อเป็นสส.แล้วอย่าเบื่อกับการประชุม นั่งครู่เดียวแล้วอยากออกจากห้องประชุม ให้นึกถึงว่ากว่าจะเข้ามาเป็นสส. ที่อยากจะได้อยากจะเป็น ไม่คุ้มกับที่ประชาชนเลือกมา ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า ส่วนที่บางคนอาจจะมีอาการง่วงนอนก็ต้องระวัง ถ้าง่วงก็ให้เปลี่ยนอิริยาบถ ที่สภามีกาแฟให้ ดื่ม เมื่อดื่มเสร็จแล้วก็กลับมานั่งที่ พร้อมยกตัวอย่างกรณี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เป็นอดีตนายกฯ อดีตส.ส เวลาประชุม จะนั่งหน้าแถวแรก และหลับมีสื่อถ่ายภาพ ไปออก แต่ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ได้ชี้แจงว่า ที่หลับเพราะอภิปรายอะไรไม่รู้เบื่อ นั่งอยู่ก็ดีแล้วไม่นอน แต่คำพูดของท่านเป็นผู้ใหญ่ แต่เราจะพูดแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเบื่อก็ต้องออกไปข้างนอกแล้วค่อยเข้ามาใหม่
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นสส. มาหลายสมัยอยู่มาหลายสิบปีไม่มีงูตัวใดเข้ามาในสภาเลย ดังนั้นเป็นสภาผู้ทรงเกียรติอย่าริแปลงร่างเป็นอย่างอื่นเพราะการแปลงร่างนั้น มันเฉพาะหน้าเหมือนจะดูดีและมีความสุขแต่จริงๆแล้วระยะยาวไม่มีใครมีความสุขและความสำเร็จนั้นล้มเหลวอย่างน่าเสียดาย
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่าครั้งที่แล้วมีการแปลงร่างเป็นงู แต่ถ้ามีการย้ายพรรคตอนที่ยุบสภาไปแล้ว เป็นโอกาสอยู่แล้วอึดอัด แต่ระหว่างที่ ยังเป็นสส. ย้ายพรรคสมัยก่อนใช้คำที่หนักกว่านี้คือคำว่าโสเภณีและ เมื่อขายตัวไป ไม่รอดเหมือนกัน มีครั้งหนึ่ง จำได้ว่าไม่ใช่เรียกว่าโสเภณี มีพรรคการเมืองหนึ่ง เรียกว่าสส. หนังหมา ที่มีคนนำหมาขี้เรื้อนมาเขียนชื่อ 3 ตัวแล้วมาปล่อยหน้าสภา กลายเป็นข่าว ดังนั้นเราเป็นตัวแทนประชาชนต้องให้ความเคารพให้เกียรติประชาชนเพราะเป็นตัวจริง แต่เราเป็นตัวแสดงในสภาซึ่งจะมีตัวจริงดูเราอยู่ตลอด ยิ่งสมัยนี้เทคโนโลยีการสื่อสารทันสมัย ตัวจริงจะดูว่าตัวแทนที่มาแสดงนั้นแสดงตามบทบาทที่คาดหวังหรือไม่อย่างไร และถ้าบทบาทของเราไม่เป็นไปตามที่คาดหวังตัวจริงจะเปลี่ยนตัวแสดงในรอบต่อไป และ ขอให้ สส. รักษาความสมดุล ระหว่างการทำหน้าที่ของผู้แทนและไม่ทิ้งประชาชน
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงสมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี เคยไปรับฟังตอนพูดที่สนามหลวง เป็นนักพูดที่ยอดเยี่ยมมากคนไม่เบื่อฟังหลายหมื่นคน ต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และเกิดวิกฤตทางการเมืองต่อมา เพราะจัดรายการชิมไปบ่นไป ผิดถูกไม่รู้แต่จะบอกว่าไม่ระวังก็ไม่ได้ ซึ่งเป็นฤทธิ์ขององค์กรอิสระ ตอนร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 มี สส.อภิปรายไว้เยอะว่าเอาดาบให้คนอื่นมาเชือดคอเราทำไม แต่สุดท้ายรัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ออกมา
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตอนที่นายสมัครพูดในห้องประชุมทุกครั้งตนหนักใจทุกครั้ง เพราะจะพูดไม่หยุด แต่ละครั้งไม่เคยต่ำกว่า 1 ชั่วโมง บางคนออกไปทานข้าวกลับมายังพูดอยู่ แต่ปัจจุบันมีการกำหนดกรอบเวลาชัดเจน 5 -7 นาที ทั้งนี้ตนและนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่2 ช่วยกันคิดว่า ขอให้ได้ประสิทธิภาพในการออกกฎหมาย แม้จะพูดน้อยแต่ขอให้ได้ประสิทธิภาพในการออกกฎหมาย อย่างไรก็ดี ตนมีอดีตสส.ที่เคารพ คือ นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ อดีต สส. 18 สมัย ที่เป็น เป็นผู้สมัครสส.เพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นถูกตัดสิทธิ์ เพราะขนาดของรูปถ่ายที่ใช้หาเสียงเลือกตั้งเกินขนาด และจากนั้นลงสมัครที่จ.ลำปาง ได้เป็นผู้แทน เคยถามถึงเหตุผล จึงทราบว่านายบุญเท่ง มีภรรยาทุกอำเภอในเขตเลือกตั้ง เพื่อให้ช่วยเป็นหัวคะแนน แต่ไม่อยากให้ผู้แทนปัจจุบัน เอาแบบอย่าง เพราะอาจเกิดปัญหา เพราะมีสมัยหนึ่ง ที่พบว่า มีภรรยาหลวง มารอสามีที่เป็นประธานสภาฯ แต่สามีไม่ทราบจึงพาภรรยาน้อยมาด้วย ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะ และถูกตีข่าวไปทั่ว
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังเล่าถึงอดีต พร้อมเตือนสส. บางคน ที่ อยากเป็นเพื่อนอยากเป็นกิ๊ก แล้วไปจีบสาว สมัยก่อนมีมาดักรอที่หน้าบันไดสภา จนสุดท้ายต้องมีการจ้างคนหล่อมาจีบ ทั้งนี้ ถ้าอยากเป็นสส.หลายสมัยต้องทำตัวเหมือนรวงข้าว ที่เมล็ดไม่ลีบ น้อมลงดินไม่หยิ่งผยอง เหมือนสส. ที่เข้าหาประชาชน ไม่ใช่ตั้งตรงแล้วเป็นนักเลงตลาด นอกจากนี้ยังยกตัวอย่างนายฉลาด วรฉัตร นักเคลื่อนไหวที่อดข้าวประท้วง พี่เผลอไปพูดขอลาออกจากสส. แม้วันรุ่งขึ้นจะเปลี่ยนใจแต่ความเป็นผู้แทน พ้นจากหน้าที่ เมื่อแสดงความประสงค์ แม้จะยังไม่ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาก็ตาม จึงฝากเตือนสส.ทุกคนให้ระมัดระวัง
ประธานสภายังกล่าวทิ้งท้ายถึงการปฏิวัติทั้ง 13 ครั้งของประเทศไทยว่า การเปลี่ยนรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่ต้องแก้ด้วยระบอบประชาธิปไตย ด้วยระบบรัฐสภา 4 ปี ไม่ดีเปลี่ยนได้ ไม่ใช่การปฏิวัติใช้อำนาจนอกระบบ มาแก้ไข