"ทักษิณ" กลับมา จะมีผลต่อการตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้นต้องตามกันอย่างใกล้ชิด แต่ถึงนาทีนี้ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังเป็น"เศรษฐา ทวีสิน" แต่ในอนาคตยังไม่แน่รอ 29 ก.ค.นี้ภาพการเมืองชัด

กรณี  "แพทองธาร ชินวัตร" หรือ "อุ๊งอิ๊งค์"แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย  ลูกสาว "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์แจ้งยืนยัน  "ทักษิณ  จะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 10 สิงหาคม 2566 นี้ ที่สนามบินดอนเมือง ทำให้กระแสการกลับบ้านของ "ทักษิณ"กลับมากระหึ่ม กลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง 

ย้อนกลับไปเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทย ของ "ทักษิณ"นั้น เริ่มจากที่ "ทักษิณ "ทวิตข้อความ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2566 ระบุว่า  “ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนวันเกิด (26 ก.ค.2566)ผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”

ในวันเดียวกันนั้น "ทักษิณ" ได้ทวีตข้อความเพิ่มเติม อีกโดยระบุว่า “ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย และวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเองด้วยความรักความผูกพันกับครอบครัว/แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา”

จากนั้น วันที่ 2 มิ.ย.2566  "ทักษิณ" ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ คุยแหลก แดกดึก ของ "คชาภา ตันเจริญ" หรือ "มดดำ" ที่ประเทศสิงคโปร์ โดย "มดดำ" ถามว่า กระแสกลับบ้านพี่โทนี่ เยอะเหลือเกิน แต่ถ้ากลับมาต้องติดคุก  "ทักษิณ" ตอบว่า ยังไงก็ได้ ยังไงก็กลับ พูดไปแล้ว ยืนยันไปแล้ว รอน้องอิ๊งค์ (นส.แพทองธาร ) เป็นคนบอก วันที่เท่าไหร่ เวลาเท่าไหร่

นอกจากนี้ "มดดำ"ได้ถามอีกว่า เพราะอะไร เหตุผลถึงอยากกลับ "ทักษิณ" กล่าวว่า หลาน 7 คนแล้ว ถึงเวลาต้องไปเลี้ยงหลานแล้ว พ่อแม่ เป็นวัยต้องไปทำงาน ปู่ย่าตายาย มีหน้าที่ต้องเลี้ยงหลาน เพื่อให้พ่อแม่ ได้ทำงานได้เต็มที่ 

จากนั้น ในวันที่ 12 ก.ค. "อุ๊งอิ๊งค์" ให้สัมภาษณ์ระบุว่า "ทักษิณ"เลื่อนเดินทางกลับ จะบวกลบกับที่เคยบอกไว้ไม่มาก  "คิดว่าเปลี่ยนวันกลับไม่มาก และยืนยันว่าจะเดินทางกลับ หากไม่ใช่เดือน ก.ค.ตามที่เคยบอกไว้ ก็อาจเลื่อนออกไปไม่มาก ต้องดูก่อนว่าการโหวตเลือกนายกฯวันที่ 13 ก.ค. จะจบลงอย่างไร"

กระทั้งวันนี้(26 ก.ค.)ซึ่งเป็นวันเกิด "ทักษิณ"ทาง "อุ๊งอิ๊งค์"ได้เปิดเผย "ทักษิณ"จะกลับประเทศไทยวันที่ 10 ส.ค.อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หาก "ทักษิณ"กลับมาจริง จะต้องติดคุก 10 ปี ทันที ตามที่ศาลได้มีคำพิพากษาก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย

1.คดีทุจริตโครงการหวยบนดิน ศาลตัดสิน ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา  

2.คดีให้ธนาคารเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้ให้รัฐบาลเมียนมา 4,000 ล้านบาท โดยจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา  

3.คดีให้นอมินีถือหุ้น "ชินคอร์ป" เข้าไปมีส่วนได้เสียในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งจำคุกรวม 5 ปี ไม่รอลงอาญา 

4.คดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่คดี หมดอายุความ 10 ปีแล้ว

สำหรับแนวทาง ที่จะทำให้ "ทักษิณ"รอดหรือติดคุกน้อยลง ในขณะนี้มีอยู่  5 แนวทางประกอบด้วย 

1.ขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งตามขั้นตอน ผู้ที่จะเข้าเงื่อนไขนี้ จะต้องรับโทษจำคุกก่อนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 3 ปี 6 เดือนก่อน หรือ จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี  หากดูตามเงื่อนไข "ทักษิณ"ยังไม่เข้าข่าย และอาจใช้เวลานาน

2.ขอพักโทษของผู้ต้องขังที่มีอายุเกิน 70 ปี เงื่อนไขต้องเหลือโทษไม่เกิน 5 ปี เคยจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 และเป็นนักโทษชั้นดี พิจารณา แล้ว "ทักษิณ"ยังไม่เข้าเงื่อนไข และอาจใช้เวลานาน

3.ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องเสนอ ออกกฎหมายผ่านสภา อาจจะเจอ แรงต้านเยอะ ใช้เวลานาน ซึ่งอาจทำได้ยาก ที่ผ่านมาโดนถล่มเละเรื่องการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย

4.พ.ร.ก.นิโทษกรรม ซึ่งรัฐบาลเสนอได้ทันที ก่อนนำเข้าสู่สภา แต่จะเจอกับแรงต้านเยอะ เพราะการออกพระราชกำหนดนั้นมีเงื่อน ต้องจำเป็นเร่งด่วน แต่เรื่องการนิรโทษฯไม่เข้าข่ายการออกพ.ร.ก.

5.ยื่นทูลเกล้าถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ "ทักษิณ"สามารถทำได้เลยเป็นกรณีเฉพาะตัว  และเป็นพระราชอำนาจ

หากประเมินทั้ง 5 แนวทางดังกล่าวข้างต้นแล้ว  "ทักษิณ"น่าจะจะเลือกแนวทางการยื่นทูลเกล้าถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 

อย่างไรก็ตามการที่ "ทักษิณ" กลับมาในช่วงรอยต่อของการตั้งรัฐบาลใหม่นั้น ย่อมส่งผลต่อการโหวตนายกฯรวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มากก็น้อย ซึ่งต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด แต่ถึงนาทีนี้ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย นาม"เศรษฐา ทวีสิน"

ทว่าในอนาคตยังไม่แน่ รอ 29 ก.ค.นี้ เพื่อไทยจะหารือกันอีกที โอกาสจะพลิกเป็น  "อุ๊งอิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร หรือไม่ น่าสนใจยิ่ง

งานนี้ขอย้ำให้ จับตาวันที่ 29 ก.ค.นี้จะเป็นวันที่มีความสำคัญมากๆของ "อุ๊งอิ๊งค์-ทักษิณ" ก่อนที่จะถึงกำหนดเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่10 ก.ค.ตามที่ "ทักษิณ"ประกาศ