รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันได้เสียงสนับสนุนโหวตนายกฯเพียงพอ จากขั้วเก่าผนึกพรรคร่วมเดิม ชี้ "ก้าวไกล" ยกมือให้หรือไม่เป็นเอกสิทธิ์ ไม่กังวล "ชูวิทย์" แฉ "เศรษฐา"
ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาไปเป็นวันที่ 16 ส.ค. จึงมีการเลื่อนวาระการเลือกนายกฯไป พรรคเพื่อไทยจึงเลื่อนการแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลออกไปด้วยเช่นเดียวกัน และคาดว่าหลังจากนั้น 1 สัปดาห์อาจจะมีการโหวตนายกฯ ถ้าหากไม่ติดอะไร ยืนยันว่าตอนนี้มีเสียงเพียงพอในการจัดรัฐบาลแล้ว แต่เมื่อเลื่อนไป ก็มีเวลาทำงานมากขึ้น การแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายยิ่งได้มากก็ยิ่งดี
"ตอนนี้รวบรวมเสียงจากพรรคร่วมเดิม และพรรคการเมืองจากอีกขั้วได้จำนวนหนึ่ง และต้องมีเสียง สว. อีก เพราะวันนี้เราอยู่ใต้วิกฤติการณ์รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งกำหนดเงื่อนไขว่าต้องได้เสียงเกิน 375 เสียง เพราะฉะนั้นเสียง สส. อยากให้ได้มั่นคงมากที่สุด เพราะจะทำให้เกิดรัฐบาลที่มั่นคง และมีประสิทธิภาพสามารถบริหารทิศทางการทำงานทั้งหมดได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น" นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยไม่ง้อเสียงจากพรรคก้าวไกล ว่า ไม่ใช่ประเด็น ในการประชุมกันของคณะเจรจา เมื่อถอนตัวจาก MOU แล้วถือว่าทุกฝ่ายเป็นอิสระต่อกัน ส่วนพรรคก้าวไกลจะโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ก็นับว่าเป็นเอกสิทธิ์ ตอนนี้ต้องสร้างมิติใหม่ทางการเมือง ซึ่งเราสามารถทำงานทางการเมืองร่วมกันเพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนได้ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็ยินดีสนับสนุน ถ้ารัฐธรรมนูญที่จะปลดล็อกปัญหาของประเทศก็ต้องสนับสนุนร่วมกันเพราะเป็นการช่วยเหลือประเทศ รวมถึงกฎหมายอื่นๆที่อยู่ในเอ็มโอยู เราก็สนับสนุนอยู่แล้ว ยกเว้นประมวลกฎหมายยามาตรา 112 เราไม่เห็นด้วย
"หากโหวตให้เรา ก็ขอบคุณ แต่ถ้าไม่โหวตให้ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ ที่พูดทั้งหมดหมายความว่าอย่างนี้ อย่าไปบอกว่า "อ้วน" จะว่าอย่างนั้น อย่างนี้ นี่คือข้อเท็จจริง ผมยืนยันได้ ทั้งคุณชัยธวัช คุณศิริกัญญา คุณพิจารณ์ ทั้งสามคนยืนยันในสิ่งที่ผมพูดได้" นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนการออกมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยเจรจาให้พรรคก้าวไกลถอยเรื่อง 112 นั้น นายภูมิธรรมระบุว่า น่าจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เพราะเราพูดไปแล้วว่าไม่เอาการแก้ไข 112 เราแสดงท่าทีชัดเจนตลอดว่าไม่เห็นด้วย ส่วนจะไปแก้อย่างไรก็ให้เป็นกระบวนการในสภา หากจะดำเนินการก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล โดยที่ผ่านมากการเจรจากับพรรคการเมืองขั้วเดิมเราก็ได้แจ้งให้ทราบว่ามีเงื่อนไขใดบ้าง พร้อมช่วยหาทางออกว่าทำอย่างไร จึงต้องเอาให้ชัดเจน ขอยืนยันในสิ่งที่พูดทั้งหมด
"หากจะเดินหน้าไปได้ ประเทศต้องปรองดอง การฟังทุกความคิดของทุกพรรคการเมือง ของทุกกลุ่ม ที่มีตัวแทนเลือกเข้ามาอยู่แล้ว เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ถ้าเป็นรัฐบาลที่ขึ้นมาจากความหลากหลาย ก็จะได้รับความยอมรับ อยู่ที่ว่าพรรคไหนร่วมกันอย่างไร หรือสังคมเห็นอย่างไรสิ่งนั้นจะเป็นคำตอบ" นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนเรื่องที่นายชูวิทย์ ออกมาแฉนายเศรษฐานั้น จะกระทบต่อการเป็นถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่เป็นอะไร เป็นเรื่องของนายเศรษฐา ส่วนกรณีการเลื่อนกำหนดการกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับท่าน และครอบครัวว่าอย่างไร ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากทางครอบครัว