“วิโรจน์” ห่วงเพื่อนรัก “เพื่อไทย” ถูกหลอก เชื่อ 2 ลุง ขอร่วมรัฐบาล ฉวยเอาตำแหน่งนายกฯ ไป หวังเพื่อนคิดได้ รีบหันกลับมาจับมือกันสู้ต่อ
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมรู้สึกเป็นห่วงเหมือนเพื่อนกำลังถูกพวกมันหลอกพาไปปล้น แล้วยิงทิ้งบนภูเขา เหตุการณ์ในช่วงเวลานี้ ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อ 11 ปีก่อน เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2555 อุปมาเหมือนกับเพื่อนรักคนหนึ่งกำลังพูดกับ กก. อยู่ว่า
“ก้าวไกลนี่ทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง ก็หมายความว่า เหมือนกับผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง ก้าวไกลแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมา ถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา ก้าวไกลจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา แต่ผมไม่เคยลืมคนที่ขับเรือมาส่งผม แล้วผมจะต้องหันกลับไปขอบคุณคนที่ขับเรือมาส่งผม เหตุการณ์มันเปลี่ยน พัฒนาการมันเปลี่ยน ก็หวังว่าก้าวไกลคงจะเข้าใจว่าวันนี้เราได้ทำหน้าที่ของเรามาสุดทาง”
ผมอยากจะตะโกนบอกเพื่อนรักคนนั้น ด้วยความเป็นห่วงว่า “นายอย่าหลงกลขึ้นรถไปกับพวกมันเป็นอันขาด มันกำลังจะหลอกพานายไปปล้น แล้วยิงทิ้งบนภูเขา รีบวิ่งกลับมาลงเรือเร็ว เรือลำนี้ยังรอนายอยู่”
ทำไมผมจึงคิดว่า นี่คือแผนร้ายที่กลุ่มโจรกำลังจะหลอกพาเพื่อนรักของผมไปยิงทิ้งบนภูเขา ผมไม่ได้แค่รู้สึกนะครับ เพราะหากเราพิจารณาจำนวน สส. ของแต่ละพรรค โดยสังเขป พท.=141 กก.=151 ภท.=71 พปชร.=40 รทสช.=36 ปชป.=25 ชทพ.=10 ปชช.=9 ทสท.=6 ชทก.=2 พทล.=2 ปธ.=1 สร.=1 อื่นๆ=5
1) 8 พรรคมีเสียงรวมกัน 312 เสียง หรือถ้าคิดแค่เฉพาะ กก. กับ พท. ก็มีอยู่ถึง 292 เสียง ยังไงก็ชนะฝ่ายลุงที่มีอยู่แค่ 188 เสียงแน่ๆ แต่เหตุผลที่ทำให้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็เพราะว่า ลุงมีเสียง สว. อยู่เบื้องหลังอีก 236 เสียง (สว. ที่เป็นกลาง 13 เสียง ลาออกไป 1 เสียง) รวมๆ แล้วฝ่ายลุงมีอยู่ 424 เสียง พอ 312 ต้องไปงัดกับ 424 ยังไงก็เป็นงานที่ยากอยู่ แต่ถ้าเราไม่แตกกัน มันก็ยังพอยื้อ และตรึงสถานการณ์ต่อไปได้ เพราะว่า 312 หรือ 292 ยังไงก็ชนะ 188 แบบขาดลอย ฝ่ายลุงไม่กล้าตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแน่ๆ
2) การที่ พท. บอกเลิก กก. ในวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ผมคิดว่า พท. คงได้รับข้อเสนอมาจากฝ่ายนู้นว่า ถ้าสลัด กก. ออก แล้วพวกมันจะยอมร่วมรัฐบาลด้วย ให้ถีบหัวเรือส่งก้าวไกล แล้วขึ้นรถไปกับพวกมันซะ ทำเนียบรัฐบาลอยู่บนภูเขา ขับรถไปไม่ไกลก็ถึง แล้ว พท. ก็จะได้เป็นรัฐบาล พท. ก็คงเชื่อพวกมันในระดับหนึ่งแหละ ไม่งั้นคงไม่มาบอกเลิก กก. แน่ๆ
แต่ พท. ลืมฉุกคิดไปหรือเปล่าครับว่า การสลัด กก. นั้นอาจจะเป็นกลอุบายของพวกมันก็ได้ ไม่แตกต่างกับกรณีที่พวกมันเอา 112 มาตั้งแง่กับ กก. ซึ่งวันนี้พิสูจน์แล้วว่า 112 เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะพอ กก. แสดงท่าทีที่พร้อมเปิดใจรับฟัง ฝ่ายนู้นก็เผยไต๋ทันทีว่า ไม่สนเรื่อง 112 ยังไงก็จะไม่เอาก้าวไกล
3) การฉีก MOU 8 พรรคร่วม ผมพอที่จะเข้าใจได้ครับ เพราะต้องการที่จะลงจากเรือ แล้วขึ้นภูเขาไปกับพวกมัน แต่ MOU ฉบับที่ 2 ที่ กก. ยอมเสียสละตำแหน่งประธานสภา ให้ พท. ไปจัดสรรให้กับ อ.วันนอร์ โดยแลกกับการสนับสนุน กฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ต้องหาคดีการเมือง (ไม่รวม 112) และการผ่านกฎหมายปฏิรูปกองทัพ เช่น ระเบียบราชการกลาโหม กฎอัยการศึก และ กอ.รมน. ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ พท. จะฉีก MOU ฉบับที่ 2 ทิ้งทำไม
4) แต่เดิม กก.+พท. = 292 ยังตั้งรัฐบาลได้ยากเลย เพราะต้องไปเจอกับ 424 ตอนนี้ พท. พรรคเดียวเหลือแค่ 141 ยังไม่ต้องให้ สว. ที่อยู่หลังม่านออกโรง แค่เจอกับ 188 ก็หนาวแล้วครับ สภาพของ พท. ในตอนนี้ คือ ถูกต่อรองหนักมาก ถึงกับมีข่าวหลุดมาว่า พรรคขนาดเล็กมีเสียงแค่ 2 เสียง ถึงกับกล้าต่อรองขอเก้าอี้ รมว. 1 ที่นั่ง เชียวนะครับ
5) การจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มี กก. ไม่มี รทสช. และ พปชร. รัฐบาลจะมีเสียงปริ่มน้ำแค่ 262-264 เสียง ซึ่งต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า เสียงแค่นี้ ในทางปฏิบัติมันเป็นรัฐบาลไม่ได้หรอกครับ อย่าลืมนะครับว่า สส. จำนวนหนึ่งก็ต้องไปนั่งเป็นรัฐมนตรี ยิ่งจะทำให้เสียงในสภาปริ่มน้ำเข้าไปใหญ่ เป็นไปไม่ได้หรอกครับที่ 2 ลุง ที่มีเสียงรวมกันถึง 76 เสียง จะโหวตให้ พท. ฟรีๆ โดยไม่ร่วมรัฐบาล และเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่ลุงเขาจะกดปุ่มให้ สว. โหวตให้กับ พท. โดยไม่หวังอะไรตอบแทน ยังไงทั้ง 2 ลุง ก็ต้องยื่นเงื่อนไขขอร่วมรัฐบาลด้วย ขึ้นอยู่กับว่าจะขอร่วมรัฐบาลตอนนี้เลย หรือจะตามเข้ามาร่วมในภายหลัง เท่านั้นเอง
6) ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งคำร้องต่อศาล รธน. เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 66 ซึ่งแต่เดิม ศาลจะพิจารณาว่าจะรับคำร้องนี้หรือไม่ ในวันที่ 3 ส.ค. ซึ่ง พท. ก็ไม่เคยมีทีท่าว่าจะรอศาล รธน. เลยนะครับ พยายามที่จะเร่งโหวตในวันที่ 4 ส.ค. ให้ได้ แถมยังแลดูมั่นใจอีกด้วยว่าจะโหวตผ่านในวันที่ 4 ส.ค. แน่ๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่าฝ่ายนู้น น่าจะให้คำมั่นสัญญาอะไรบางอย่างกับ พท. เป็นมั่นเป็นเหมาะเอาไว้แล้ว
7) แต่อยู่ดีๆ ก็มาเลื่อนโหวตนายก ในวันที่ 4 ส.ค. การอ้างว่าเลื่อนตามศาล รธน. นั้นฟังไม่ขึ้นเลย เพราะที่ศาลเลื่อน ไม่ใช่เลื่อนการวินิจฉัยนะครับ แต่เป็นการเลื่อนการพิจารณาว่าจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ และต่อให้รับ ก็ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับการโหวตในวันที่ 4 ส.ค. เลย จึงทำให้คาดได้ว่า น่าจะมีการบิดพลิ้ว หรือมีการหักเหลี่ยมโหดบีบคอขอต่อรองอะไรบางอย่างเพิ่มแน่ๆ เช่น
พปชร. และ รทสช. อาจจะเข้าขอร่วมรัฐบาลเลย มิฉะนั้น สว. จะไม่โหวตให้ อย่าคิดว่า 2 ลุง เขาแยกกัน หรือทะเลาะกันนะครับ 2 ลุงเขามาแบบแพ็คคู่แน่นอน
หรือไม่ ก็อาจจะเจอ 188 รุมต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มอย่างหนัก แบบถ้าให้ก็คือเจ๊งหมดตัว กระทรวงดีๆ เกือบทั้งหมด ต้องยอมยกให้กับพวกมัน
ซึ่งการบีบคอต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีแบบนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นกับ กก. เลย เพราะกระทรวงเศรษฐกิจที่ พท. ถนัด ก้าวไกลก็เชื่อมือ กระทรวงที่ กก. มุ่งมั่นอยากเข้าไปทำงาน พท. ก็ยอมรับ ทุกอย่างลงตัว
ตอนนี้ พท. มีอำนาจการต่อรองค่อนข้างจำกัดมากนะครับ ไม่ใช่แค่เสียงในสภา 141 เสียง ที่น้อยกว่า 188 นะครับ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากๆ ก็คือ มวลชนคนเสื้อแดง ที่ทยอยเดินออกจาก พท. ต้องยอมรับว่า แต่เดิมสิ่งที่ทำให้ พท. มีอำนาจการต่อรองกับฝ่ายอำนาจเก่า อยู่พอสมควรเลย ก็คือ มวลชนคนเสื้อแดง ที่เป็นเพื่อนแท้ที่คอยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ พท. มาโดยตลอด
ต้องยอมรับว่า การตัดสินใจสลัด กก. ในครั้งนี้ของ พท. นอกจากจะทำให้เสียงในสภาลดลงจาก 292 (กก.151+พท.141) เหลือเพียง 141 แล้ว พท. ยังสูญเสียมวลชนคนเสื้อแดงไปเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทำให้อำนาจการต่อรองของ พท. ลดลงอย่างมาก
9) พท. ไม่กลัวหรือครับว่า ในวันที่โหวตนายก ที่เป็นแคนดิเดตจาก พท. พท. จะถูกพวกมันหักหลัง เสียง สว. ไม่มาตามนัด และทำให้แคนดิเดตนายกของ พท. ได้เสียงน้อยมากๆ ซึ่งจะทำให้ความชอบธรรมทางการเมืองของ พท. ลดลงถึงขีดสุด และอยู่ในภาวะล้มละลายทางความน่าเชื่อถือของประชาชน
ไม่ฉุกคิดเลยหรือครับ ว่าบนภูเขา ที่มันกำลังจะพา พท. ขึ้นไป มันคือทุ่งสังหาร ที่จะใช้ทำลาย พท. แบบสิ้นซาก แล้วลุงก็จะเข้ามาฉวยเอาตำแหน่งนายกไป ต่อหน้าต่อตา โดยที่ พท. ได้แต่ทำตาปริบๆ ยอมเป็นนั่งร้านให้ 2 ลุงได้สืบทอดอำนาจ ทั้งๆ ที่มีเสียงในสภาตั้ง 141 เสียง
10) ต่อให้ พท.ตั้งรัฐบาลได้ รัฐบาลที่ตั้งได้ ก็จะเป็นแค่รัฐบาลหุ่นเชิด ที่พรรคร่วมรัฐบาลมีอำนาจการต่อรองสูงมาก เหมือนถูก 2 ลุง เอาปืนจี้หลังอยู่ตลอดเวลา การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ก็จะดำเนินไปอย่างกระท่อนกระแท่น ถูกต่อรอง ถูกรีดไถผลประโยชน์ อยู่ตลอดเวลา แล้วก็อย่าหวังลมๆ แล้งๆ เลยนะครับว่า 2 ลุง เขาจะยอมให้แก้ไข รธน. ที่เขามีความได้เปรียบ ฝันไปเถอะครับ
ผมเป็นห่วงมากๆ ว่า พท. เพื่อนรักของผม กำลังตกหลุมพราง ถูกอุบายหลอกให้สลัดพันธมิตรอย่าง กก. และทิ้งเพื่อนแท้อย่างคนเสื้อแดง ประหนึ่งวางอาวุธ แล้วยอมให้ใส่กุญแจมือ เอาถุงดำคลุมหัว แล้วเดินขึ้นรถตู้ไปกับโจร
ถ้าถามผมว่า ผมโกรธไหมที่ พท. ตัดสินใจสลัด กก. และทำร้ายจิตใจคนเสื้อแดงแบบนี้ มันก็ต้องรู้สึกไม่สบายใจบ้าง เป็นธรรมดา แต่ผมไม่ถึงกับโกรธหรอกนะครับ แค่รู้สึกผิดหวังที่เพื่อนเรา ทำไมถึงได้ไปหลงเชื่อ ยอมให้คนพวกนี้มันหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็เท่านั้นเอง
ณ วินาทีนี้ ก็ได้แต่หวังว่า เพื่อนจะคิดได้ แล้วรีบหันหลังวิ่งหนีออกมา ผมตระหนักดีครับว่า ที่ผ่านมาฝ่ายอนุรักษ์นิยมนั้นเจ้าเล่ห์ และโหดเหี้ยมมาก และยุทธวิธีที่พวกมันใช้มาในทุกยุคทุกสมัย ก็คือ “การแบ่งแยกแล้วปกครอง” ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ผมต้องยิ่งสะกิดเตือนตัวเองว่าต้องใจกว้าง อย่าคิดเล็กคิดน้อย ถ้าเพื่อนสำนึกผิดคิดได้ ก็ต้องกัดฟันลืมให้ได้ และต้องรีบมานั่งคุยกัน ว่าจะจับมือสู้กับพวกมันต่อยังไง
“ก็หวังว่าเพื่อน จะคิดได้ก่อนที่จะขึ้นรถตู้ไปกับพวกมัน ถ้าหลงขึ้นรถตู้ไปกับพวกมันเมื่อไหร่ สักพักคนบนเรือ ก็คงจะได้ยินเสียง ปัง! ดังลอยมาจากบนภูเขา” นายวิโรจน์ ระบุ